สาวใหญ่ป่วยเดินไม่ได้ ต้องนอนกิน-ถ่ายทุกข์ ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง ไร้คนช่วยเหลือ

ระยอง - สาวใหญ่โดนไสยศาสตร์เดินพูดคนเดียว ถูกต้นมะพร้าวล้มทับจนลุกเดินไม่ได้ นอนเปลือยกายกินอาหาร-ขับถ่ายในขนำ ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง ไร้หน่วยงานยื่นมือช่วยเหลือ

วานนี้ (1 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพลเมืองดีในอ.บ้านฉาง จ.ระยอง ว่าในชุมชนเขตเทศบาลเช่าพื้นที่ธรณีสงฆ์วัดพยูน(ชื่อเดิม) ซอยพยูน 14 เขตเทศบาลตำบบ้านฉาง มีสาวใหญ่สติไม่ดี นั่งไม่ได้ นอนเปลือยกายกินน้ำกินข้าวอยู่ในขนำเล็ก มีผ้ามุ้งบางเก่าปกปิดร่างกาย ในขน้ำเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นปัสสาวะและอุจจาระ ไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดูแลให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด

จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบสาวใหญ่นอนเปลือยกายอยู่ในขนำเล็กๆ ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วขนำ ขณะเดียวกันนายสังเวียน สมศักดิ์ อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ 4 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง บิดาของสาวใหญ่ที่นอนเปลือยกายในขนำ ได้เดินออกมาดูและกล่าวว่า คนที่นอนในขนำชื่อนางวิมล สมศักดิ์ อายุ 49 ปี เลูกสาวคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 10 คน

ในอดีตลูกสาวคนนี้ไปอยู่กับญาติต่างจังหวัด มีครอบครัวและมีลูกด้วยกัน 2 คน ต่อมาได้ข่าวว่าเลิกกับสามีลูกก็ไปกันคนละทิศละทาง ต่อมาทราบข่าวว่านางวิมลลูกสาวไปได้สามีใหม่ อยู่กินด้วยกันทางภาคใต้นานนับสิบปีและมีลูกด้วยกันอีก 3 คน

ต่อมานางวิมลได้กลับมาบ้านคนเดียว มาอาศัยอยู่กับตน และมีอาการเหม่อลอย เดินพูดไปตามถนนทั้งวัน และไม่ยอมอาบน้ำมานานนับสิบปีแล้ว จนต้องไปปลูกขนำให้อยู่คนเดียวริมหาดพยูนใกล้บ้าน และเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักและมีพายุลมแรง ทำให้ต้นมะพร้าวล้มทับขนำ และทับร่างนางวิมลจนสลบแน่นิ่งไป

เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้นำส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอ.บ้านฉาง แต่หมอไม่ยอมดูแลอาการ และให้การรักษาบาดแผลแต่อย่างใด เนื่องจากลูกสาวไม่มีเอกสารหลักฐาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงต้องนำกลับมาส่งบ้าน ขณพที่ครอบครัวตนเองก็ยากจน ไม่มีเงินรักษาลูก ซึ่งหลังจากถูกต้นมะพร้าวล้มทับขนำ และทับร่างจนทำให้ไม่สามารถลุกเดินหรือนั่งได้ ต้องนอนอย่างเดียว และมีอาการเหม่อลอยพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง เสื้อผ้าใส่ให้ก็ถอดทิ้งหมด นอนอุจาระปัสสาวะจนต้องมาปลูกขนำเล็กที่เห็นให้อยู่ตามลำพัง แต่ก็ไม่ห่างไกลกัน ชาวบ้านก็พูดกันว่าลูกสาวโดนไสยศาสตร์ ผีเข้าบ้าง เป็นคนบ้า แต่ไม่มีอาการคุ้มคลั่ง ส่วนลูกของนางวิมล ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน และไม่เคยมาดูแลนางวิมลแต่อย่างใด

ด้านนางเสียน ใจใหญ่ อายุ 80 ปี มารดา กล่าวทั้งน้ำตาว่า สงสารลูกแต่ก็ไม่รู้จะช่วยอะไรได้ เพราะความยากจนไม่มีเงินพาลูกไปรักษา ต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรม ลูกๆเขาก็ไม่มาเหลียวแล ตั้งแต่เขากลับจากใต้มาอยู่บ้านกว่า 10 ปีแล้ว มีอาการซึมไม่ค่อยพูดจากับใคร ตื่นเช้าก็ออกเดินพูดคนเดียวไปตามถนน ตกเย็นก็เดินกลับ เป็นอยู่อย่างนี้ และไม่ยอมอาบน้ำ

หลังถูกต้นมะพร้าวล้มทับขณะกำลังนอนอยู่ในขนำคิดว่าตาย แต่กลับไม่ตาย ฟื้นขึ้นมาลุกเดินหรือนั่งไม่ได้ กลายเป็นอัมพาต ต้องนอนอย่างเดียว ทำอาหารมาให้กินก็ต้องนอนกิน ใส่เสื้อผ้าให้ก็ถอดทิ้ง นอนปัสสาวะอุจจาระเปรอะเปื้อน ตนก็ต้องมาทำความสะอาดให้ แต่เดี๋ยวนี้ทำไม่ไหวแล้ว ทำให้มีกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ