xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสวนยางนราฯ ยันรัฐบาลยังแก้ปัญหาราคาตกต่ำไม่ตรงจุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
นราธิวาส - ชาวสวนยางบางนรา ระบุรัฐบาลแก้ปัญหาราคาตกต่ำยังไม่ตรงจุด เรียกร้องผู้บริหารระดับนโยบายลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อรับทราบปัญหาที่แท้จริง

นายประหยัด ลอแม ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยถึงมติ ครม.ล่าสุด ในการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกร ว่า ยังไม่เป็นที่พอใจของเกษตรชาวสวนยาง เนื่องจากมติของคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กยน.) ต้องการให้เพิ่มพื้นที่สนับสนุนปัจจัยการผลิตจาก 10 ไร่ เป็น 25 ไร่ และปรับลดวงเงินจาก 1,260 บาท/ไร่ เป็น 1,240 บาท/ไร่ อย่างไรก็ตาม ทราบมาว่า กยน.จะมีการหารือในกลุ่มเกษตรกร กรณีการได้รับช่วยเหลือในครั้งนี้ว่าเพียงพอต่อการช่วยเหลือเกษตรกรได้มากน้อยเพียงใด และจะมีการยื่นให้คณะรัฐมนตรีทบทวนเพื่อพิจารณาขยายพื้นที่สนับสนุนตามข้อเรียกร้องของ กยน.ต่อไป

ขณะที่ นายขจรศักดิ์ ว่องไว เกษตรกรชาวสวนยางพารา อ.แว้ง จ.นราธิวาส กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องรัฐบาลแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เพราะการช่วยเหลือโดยจ่ายเงินด้วยวิธีดังกล่าวจะทำให้มีการช่วยเหลือเฉพาะบางกลุ่ม ไม่ครอบคลุมผู้ที่รับจ้าง หรือเช่าที่เพื่อกรีดยาง อีกทั้งมีเกษตรกรอีกเป็นจำนวนมากที่ถือครองที่ดินที่ปลูกยางมากกว่า 10 ไร่ ส่วนพื้นที่ที่เหลือก็ถูกลอยแพ ไม่ได้รับการช่วยเหลือ
 
“ส่วนการประกันราคาในอัตราน้ำยาง 80 บาท/กิโลกรัม และยางแผ่นดิบ 90-100 บาท/กิโลกรัม จะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด และถึงมือเกษตรกรอย่างแท้จริง โดยผู้ที่รับจ้างกรีดยางที่มีอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมากจะได้รับเงินส่วนนี้ด้วย” นายขจรศักดิ์กล่าวและว่า ในกรอบการพิจารณาจัดทำนโยบาย หรือการจะแก้ปัญหาที่เป็นความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง รัฐบาลควรส่งผู้บริหารในระดับนโยบายลงไปติดตามสภาพปัญหา และความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จริง แทนการรับเพียงเอกสารไม่กี่แผ่นที่ส่งไปให้จากเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติ
 
ด้านนายเสรี แป้นคง เกษตรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขอเชิญชวนเกษตรกรชาวสวนยางไปขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางระหว่างวันที่ 4-30 ก.ย.นี้ เพื่อขอรับช่วยเหลือตามมติ ครม.ที่เห็นชอบให้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางจากสถานการณ์ราคายางตกต่ำ ตามที่ กยน.เสนอ ซึ่งประกอบด้วย การสนับสนุนค่าปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรไร่ละ 1,260 บาท รายละไม่เกิน 10 ไร่ โดยคุณสมบัติของผู้มีสิทธิขึ้นทะเบียนต้องมีสัญชาติไทย เป็นหัวหน้าครอบครัวและเป็นผู้ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรไว้แล้ว แต่ในกรณีที่ไม่สามารถมาขึ้นทะเบียนได้ด้วยตนเอง ให้มอบอำนาจให้สมาชิกในครัวเรือนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนเกษตรกรเป็นผู้ขอขึ้นทะเบียนแทนตามแบบคำร้องที่กำหนด
 
ส่วนกรณีที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกร ให้แจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับข้อมูลทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบันก่อน ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิขึ้นทะเบียนคือ เกษตรกรที่ปลูกยางพาราตั้งแต่ 1 ไร่ขึ้นไป ซึ่งเป็นยางที่เปิดกรีดยางอยู่ในขณะนี้ โดยยึดที่ตั้งของพื้นที่ปลูกยางในการขอขึ้นทะเบียน ณ สำนักงานเกษตรอำเภอ สถานที่ที่สำนักงานเกษตรอำเภอนัดหมาย หรือกรณีไม่สามารถมาดำเนินการได้ตามวันเวลาที่กำหนด และมีความประสงค์จะขอขึ้นทะเบียน ขอให้ประสานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการต่อไป แต่ทั้งนี้ ควรดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนดเพื่อให้สามารถรับการจัดสรรเงินช่วยเหลือในรอบนี้

สำหรับการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลุกยางพารา จะรับขึ้นทะเบียนทุกแปลงทั้งที่มีเอกสารสิทธิ และพื้นที่นอกเหนือเอกสารสิทธิ โดยให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ส่วนเอกสารที่จะนำไปขึ้นทะเบียน ประกอบด้วย ทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน หลักฐานเอกสารสิทธิที่ดินทำกินตามกฎหมาย พร้อมสำเนา โดยขึ้นทะเบียนที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสถานที่ที่มีการนัดหมายไว้ จากนั้นคณะกรรมการตรวจสอบพื้นที่ระดับตำบล ซึ่งแต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะดำเนินการใน 30 วัน หลังรับคำร้องขอขึ้นทะเบียน และการออกใบรับรองเกษตรกรจะดำเนินการภายใน 15 วัน หลังผ่านการตรวจสอบพื้นที่จากคณะกรรมการ ซึ่งเกษตรกรจะนำใบรับรองผลการขึ้นทะเบียนไปขอขึ้นเงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ต่อไป
 
ทั้งนี้ ข้อมูลการปลูกยางพาราที่รวบรวมไว้เมื่อปี 2555 มีดังนี้ พื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส มีเกษตรกรรวม 72,440 คน มีเนื้อที่ปลูกยาง 989,440 ไร่ ยังไม่เปิดกรีด 165,796 ไร่ เปิดกรีดแล้ว 823,623 ไร่ มีผลผลิตรวม 194,402.69 ตัน เฉลี่ยมีผลผลิต 236 กิโลกรัม/ไร่ มูลค่ารวม 15,530.66 ล้านบาท โดยมีราคาขายเฉลี่ย 80 บาท/กิโลกรัม

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น