ตรัง - อบต.สุโสะ จ.ตรัง หนุนฟื้นป่าชายเลนบ้านในทอน ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง จนมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 12,000 ไร่แล้ว ถือเป็นแหล่งอาหาร แหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวอันมีคุณค่าของชุมชน
นายสมคิด รองเดช นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สุโสะ อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง กล่าวว่า สืบเนื่องจากหมู่ที่ 11 บ้านในทอน เป็นพื้นที่ที่อยู่ด้านในสุดติดทะเลตรัง โดยมีผู้คนในชุมชนมีประมาณ 125 ครอบครัว และส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ในอดีตป่าชายเลนบ้านในทอน เคยถูกสัมปทาน โดยมีนายทุนเข้ามาทำเตาเผาถ่าน จำนวนถึง 4 ราย และสร้างเตาเผาถ่าน รวมจำนวน 20 เตา ซึ่งในสมัยนั้นชุมชนมีเศรษฐกิจดีเป็นอย่างมาก เพราะรายได้หลักของชาวบ้านมาจากการเป็นลูกจ้างโรงเผาถ่าน
ต่อมา เมื่อมีการประกาศให้ยกเลิกการสัมปทานโรงเผาถ่าน ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลสุโสะ จึงได้ช่วยกันฟื้นฟูและอนุรักษ์ เพื่อให้ป่าชายเลนกลับมาเป็นแหล่งรายได้ของผู้คนในชุมชน ซึ่งจากความพยายามต่อเนื่องกันมายาวนานหลายปี จึงทำให้ป่าชายเลนบ้านในทอน กลับมาเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดตรัง ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้าน องค์กรเอกชน และภาครัฐ ในขณะที่ทาง อบต.สุโสะ ก็ได้เข้าไปให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) องค์กรอิสระในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้การสนับสนุนทั้งด้านงบประมาณ และด้านกำลังความคิด พร้อมกับร่วมมือกับผู้คนในชุมชน ช่วยกันอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านในทอน มาเป็นระยะเวลาหลายปี ทำให้มีป่าชายเลนมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 12,000 ไร่ ทั้งๆ ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีพื้นที่ที่เป็นพื้นดินแค่เพียง 2,500 ไร่เท่านั้น จึงถือได้ว่าป่าชายเลนเป็นวิถีชีวิตของคนในชุมชน รวมทั้งเป็นที่มาของอาชีพ และรายได้
นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.ตรัง กล่าวว่า ล่าสุด ป่าชายเลนบ้านในทอน ตำบลสุโสะ ยังได้มีการจัดทำโครงการวิจัยเรื่องการจัดการทรัพยากรป่าชายเลนบนวิถีชุมชนบ้านในทอน รวมทั้งมีการปล่อยปูดำ เพื่อศึกษาความเป็นอยู่ตามธรรมชาติ และมีการทดลองเลี้ยงสาหร่ายขนนก ซึ่งเป็นพืชที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากมาย เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร และรายได้ของผู้คนในอนาคตต่อไป จนทำให้เป็นทั้งแหล่งอาหาร แหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวอันมีคุณค่าของชุมชน