xs
xsm
sm
md
lg

นายสถานี อ.โก-ลก เผยปิดเส้นทางรถไฟสายใต้สูญรายได้กว่า 6 แสนบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นราธิวาส - สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก สูญรายได้จากการชุมนุมปิดเส้นทางรถไฟ มูลค่ารวมกว่า 660,000 บาท ด้านประธานหอการค้า จ.นราธิวาส วอนรัฐบาล และผู้ชุมนุมถอยคนละก้าวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และภาคธุรกิจในภาคใต้

วันนี้ (2 ก.ย.) นายอาลาวี อุมา นายสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก เปิดเผยตัวเลขผลกระทบจากกรณีกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง และสวนปาล์มน้ำมันชุมนุมปิดถนน และเส้นทางรถไฟที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.56 ที่ผ่านมาว่า ทำให้สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก สูญรายได้รวมกว่า 660,000 บาท แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้น คือ ความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องการโดยสารรถไฟ และการขนส่งสินค้าไป-กลับระหว่างต้นทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ปลายทางกรุงเทพฯที่จะต้องเปลี่ยนแผนการเดินทาง ทั้งที่การเดินทางโดยรถไฟเป็นเส้นทางหลักของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่การขนส่งสินค้าจากผู้ประกอบการในพื้นที่โดยเฉพาะผ้าพื้นเมืองจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจากประเทศมาเลเซีย ที่มีการจัดส่งไปกรุงเทพฯ เป็นจำนวนมากในแต่ละรอบต้องหยุดชะงัก จนสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่สามารถส่งของได้ทันตามกำหนด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ประจำขบวนรถด่วน และรถเร็วได้ประจำอยู่ ณ ที่ตั้งเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าปฏิบัติงานทันทีที่มีการเปิดเส้นทาง จึงอยากเรียกร้องให้มีข้อสรุปร่วมกันโดยเร็ว เนื่องจากมีความเห็นใจทั้งกลุ่มผู้ชุมนุม และรัฐบาล แต่ในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอยากให้ยึดผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก ซึ่งรวมถึงพี่น้องประชาชนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องได้รับความเดือดร้อนทุกครั้งที่รถไฟหยุดให้บริการ ทั้งจากสถานการณ์ความไม่สงบ และจากการชุมนุมที่เกิดขึ้นซึ่งยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาเยียวยาผลกระทบดังกล่าวให้แก่คนในพื้นที่ ที่ต้องถูกกระทำโดยทางอ้อมอยู่เสมอ

ด้านนายศรัณย์ วังสัตบงกช ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส ระบุผลกระทบจากการปิดถนนและเส้นทางรถไฟได้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างหนัก เพราะเส้นทางหลักถูกปิดตายหลายวันติดต่อกัน และยังไม่มีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติในเร็ววันนี้ จึงอยากขอความเห็นใจจากทั้ง 2 ฝ่าย ในการหาทางออกในระยะสั้นไปก่อน แล้วจากนั้นจึงมากำหนดมาตรการ หรือแนวทางแก้ปัญหาในระยะยาวร่วมกันอีกครั้ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ต้องการสัญจรไปมา รวมทั้งภาคธุรกิจที่จะได้เดินหน้าประกอบกิจการต่อไปตามปกติ ส่วนราคายางพาราที่มีความเหมาะสมในการช่วยเหลือเกษตรกรนั้นอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายถอยคนละก้าวโดยยึดราคากลางที่อยู่ระหว่างราคาที่รัฐบาล และผู้ชุมนุมกำหนด
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น