ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “ผบ.ตร.” ส่ง “พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา” ลงพื้นที่ติดตามคดีฆ่ากำนันดังสงขลา และลูกน้องคนสนิท 2 ศพ ขณะที่ตำรวจกำลังติดตามพยานมาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อเตรียมออกหมายจับทีมสังหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่ม นายสิทธิชัย ชุมอิน อายุ 39 ปี หรือกำนันสิทธิ์ กำนัน ต.วัดจันทร์ อ.สทิงพระ จ.สงขลา นายประสิทธิ์ ลิ่มจู้ อายุ 42 ปี สารวัตรกำนันคนสนิท เสียชีวิตพร้อมกัน 2 ศพ คารถรถยนต์กระบะ ซึ่งติดกระจกกันกระสุน เหตุเกิดบนถนนสายสงขลา-ระโนด พื้นที่หมู่ 5 ต.สทิ้งหม้อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา
ย่างเข้าสู่วันที่ 3 คดีมีความคืบหน้าไปมาก หลังเจ้าหน้าได้เบาะแสสำคัญจากภาพกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ขณะลงมือก่อเหตุไว้ได้อย่างชัดเชน โดยในวันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ อ.สิงหนคร เพื่อติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน และเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่คลี่คลายคดีโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นหนึ่งในคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.สงขลา และเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่คลี่คลายคดี
ส่วนความคืบหน้าด้านคดีนั้น ล่าสุด พ.ต.อ.นิพล เสละหมาด ผู้กำกับการ สภ.สิงหนคร เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการติดตามพยานแวดล้อมมาสอบปากคำ และให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมออกหมายจับคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ ส่วนจะออกหมายจับกี่คนนั้นยังไม่สามารถบอกได้ ต้องรอพยานยืนยัน และหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง รวมทั้งผลตรวจสอบอาวุธปืนทั้งอาก้า และเอ็ม 16 ว่าตรงกับคดีเก่าที่คนร้ายใช้ยิงฝ่าย กำนันสิทธิ์ หรือไม่ โดยกลุ่มผู้ต้องสงสัยเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าไปที่กลุ่มคู่อริเก่าที่เคยมีเรื่องบาดบางกันมาก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีข้อมูลและประวัติอยู่แล้ว
ด้านชุดสืบสวนทั้ง 3 ชุด ทั้งของตำรวจภูธรภาค 9 ตำรวจภูธร จ.สงขลา และของ สภ.สิงหนคร ได้เฝ้าจับตากลุ่มผู้ต้องสงสัยที่เป็นทีมมือปืนอย่างน้อย 5 คน ซึ่งเชื่อว่าเป็นมือปืนอาชีพสังกัดซุ้มมือปืนใน อ.ระโนด และอาจจะมีซุ้มมือปืนจากจังหวัดใกล้เคียง ทั้งพัทลุง และนครศรีธรรมราช ร่วมทีมด้วย รวมทั้งติดตามรถกระบะมิตซูบิชิ รุ่นไทรท้น สีดำ 4 ประตูที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ซึ่งจะเป็นหนึ่งเบาะแสสำคัญที่จะนำไปสู่การคลี่คลายคดีนี้ ขณะเดียวกัน ได้ประสานญาติของผู้ตายทั้ง 2 คนเข้าให้ปากคำในประเด็นขัดแย้งต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายต่อไป
