xs
xsm
sm
md
lg

“ประชา พรหมนอก” รองนายกฯ ลงภูเก็ตสั่งขึ้นบัญชีมาเฟียเมืองท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ประชา” รองนายกรัฐมนตรี ลงภูเก็ตเร่งรัดแก้ปัญหาการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และจัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ ย้ำต้องปลอดภัย ให้บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว พร้อมสั่งขึ้นบัญชีมาเฟียเมืองท่องเที่ยว จี้ตำรวจ ราชการทำงานแก้ปัญหาต้องยึดมั่นในเกียรติศักดิ์ศรี ไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน

 
วันนี้ (24 ส.ค.) ที่โรงแรมเมโทรโพล อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมเร่งรัดการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และการจัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดขึ้น โดยมีนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี ตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง ตชด. ตร.ทางหลวง รวมทั้ง ผอ.ท่าอากาศยานภูเก็ต เจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงาน ขนส่งจังหวัด เจ้าท่าฯ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อชี้แจงผลการดำเนินงาน และรับมอบนโยบายการทำงานในการแก้ไขปัญหาในเมืองท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวชี้แจ้งถึงเรื่องของการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของภูเก็ตทั้งเรื่องแท็กซี่ป้ายดำ เรื่องของเจ็ตสกี และการเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตของนักท่องเที่ยว เช่นเดียวกับทางตำรวจที่ได้ชี้แจงถึงผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาในการแก้ปัญหาการท่องเที่ยว เช่น เรื่องของการเพิ่มกำลังพลที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เรื่องของการยกระดับของตำรวจท่องเที่ยวเป็นกองบังคับการในเมืองท่องเที่ยว และผลการดำเนินคดีทางด้านต่างๆ

 
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการรับฟังรายงานการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน ว่า เรื่องแรกที่ทางตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันดำเนินการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว คือ ของการดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญ พื้นที่ไหน หรือแหล่งท่องเที่ยวใดที่มีปัญหาเรื่องของความไม่ปลอดภัย เรื่องของการลักทรัพย์ เรื่องของการทำร้ายนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น นักท่องเที่ยวก็ไม่อยากที่จะไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวแหล่านั้น

เรื่องที่ 2 นอกจากจะดูแลเรื่องของความปลอดภัยแล้ว สิ่งที่จะต้องทำควบคู่กันไปคือเรื่องของการให้บริการ ทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวได้รับการดูแล และได้รับความสะดวกในกรณีที่มาติดต่อกับทางหน่วยงานตำรวจ มีความคลองตัว มาติดต่อที่เดียวแต่สามารถได้รับการบริการแบบเบ็ดเสร็จโดยที่ไม่ต้องให้ไปจุดโน้นบ้าง จุดนี้บ้าง ซึ่งเรื่องนี้อยากฝากให้หัวหน้าสถานีตำรวจแต่ละแห่งพิจารณาเรื่องของการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว เรื่องที่ 3 เรื่องของคนที่ทำตัวมีปัญหา ทำตัวเป็นมาเฟีย เจ้าพ่อเจ้าแม่ ซึ่งมักจะปรากฏให้เห็นอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ป้ายดำ เจ็ตสกี และอื่นๆ ขอให้ทางตำรวจสำรวจตรวจสอบ และขึ้นบัญชีบุคคลเหล่านี้ไว้ โดยมีการจัดทำเป็นระบบข้อมูลที่สามารถเปิดดูได้ตลอดเวลา เก็บไว้เพื่อง่ายในการทำงานติดตามกรณีเกิดเหตุไม่ดีขึ้น ซึ่งนอกจากจะขึ้นบัญชีในส่วนของบุคคลที่มีปัญหาแล้ว ในส่วนของคนดี คนที่ให้ความช่วยเหลือทางตำรวจก็จะต้องขึ้นบัญชีรายชื่อไว้ด้วยเพื่อความสะดวกในการติดต่อ

 
พล.ต.อ.ประชา กล่าวต่อไปว่า นอกจากตำรวจจะต้องดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวแล้วในส่วนของผู้ประกอบการต่างๆ ก็ต้องได้รับการดูแลเช่นเดียวกัน เพราะนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการต้องอยู่ควบคู่กัน ซึ่งคนเหล่านี้ก็ต้องได้รับบาดดูแลเช่นเดียวกัน ส่วนเรื่องของกล้องซีซีทีวีที่ทางจังหวัดภูเก็ตขอนั้น อยากให้ทางตำรวจพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากสำหรับเมืองท่องเที่ยว ที่ผ่านมา มีหลายคดีที่จับผู้ต้องหาได้เพราะมีภาพจากกล้องวงจรปิด การติดกล้องวงจรปิดนั้นอย่างให้ติดในจุดสำคัญๆ และควรจะประสานกับภาคเอกชนในการติดตั้งกล้องในพื้นที่ของตัวเองซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของทางราชการเป็นอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้คิดว่าต้องทำในพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวได้ ซึ่งจะทำให้การดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ประชาชนทำได้ดีขึ้น

 
“ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องของการท่องเที่ยวแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ยังจะต้องดูแลเรื่องของยาเสพติดอย่างเข้มแข็งด้วย ขอให้ทำประวัติของผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด กวาดล้างจับกุมทำลายแหล่งผลิต แหล่งจำหน่ายให้มากที่สุด ซึ่งเรื่องของยาเสพติดถ้าพื้นที่ไหนมีเรื่องของยาเสพติดแพร่ระบาดพื้นที่นั้นก็จะมีปัญหาเรื่องการลักขโมยตามมา ซึ่งเรื่องของยาเสพติด และเรื่องอื่นๆ มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของแรงงานต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องมีการดำเนินการควบคู่ไปกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้กฎหมายเป็นหลัก ส่วนเรื่องโรฮิงญาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องร่วมกันดูแลเพื่อแก้ปัญหาให้สำเร็จลุลวง” พล.ต.อ.ประชากล่าวและว่า

แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้ข้าราชการตำรวจทุกหน่วย และหน่วยงานทุกหน่วยที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ขอให้รำลึกถึงศักดิ์ศรีของความเป็นข้าราชการ อย่าไปทำให้ผู้ประกอบการที่ประกอบอาชีพด้วยความสุจริตได้รับความเดือดร้อน เพราะฉะนั้น การทำงานจะต้องยึดมั่นในเกียรติ และศักดิ์ศรี
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น