ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กรมทรัพยากรธรณีติดตั้งเครื่องตรวจวัดมูลดินเฝ้าระวังเหตุดินถล่มในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตแล้ว เตือนภัยล่วงหน้าได้ภายใน 2 ชั่วโมง ขณะที่ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการติดตั้ง
วันนี้ (23 ส.ค.) นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดการเคลื่อนตัวของมวลดิน เพื่อคอยติดตามการเคลื่อนตัวของดินบริเวณภูเขาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นมาตรการการเตือนภัยล่วงหน้ากรณีดินสไลด์-ดินถล่มในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่บริเวณสำนักสงฆ์ดอยเทพนิมิต อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งกรมทรัพยากรธรณี เสนอนำมาติดตั้งที่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 2 ชุด เนื่องจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มจำนวนหลายจุดด้วยกัน โดยมีนายถวัลย์ สุขโข ผู้อำนวยการศูนย์เครื่องจักรกล สำนักเทคโนโลยีธรณี กรมทรัพยากรธรณี ให้การต้อนรับ และชี้แจงความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องตรวจวัดมวลดินเพื่อแจ้งเตือนภัยล่วงหน้ากรณีดินสไลด์ ดินถล่ม ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
โดยนายถวัลย์ กล่าวว่า สำหรับการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดมวลดินที่บริเวณสำนักสงฆ์เทพนิมิต บนเทือกเขานาคเกิด อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้ดำเนินการติดตั้งมาตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจุดนี้เป็นการติดตั้งจุดแรก สาเหตุที่เลือดจุดนี้เนื่องจากมีความลาดเอียงของดินที่เหมาะในการดำเนินการซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับบริเวณอื่นๆ ซึ่งการติดตั้งนั้นมีการเจาะแท่งเหล็กซึ่งเป็นตัวส่งสัญญาณมาที่คอนโทรล บล็อก จำนวน 5 ตัว ลึกลงไปประมาณ 8 เมตร ชนถึงชั้นดินดาน ซึ่งขณะนี้การติดได้ดำเนินการเสร็จแล้ว นอกจากนั้น ยังมีการติดตั้งเทอมิเนอร์ จำนวน 3 ตัว เพื่อวัดแรงสั่นสะเทือน การเคลื่อนตัวของชั้นดิน และปริมาณน้ำฝน และหลังจากนี้จะมีการเฝ้าสังเกตการณ์ ซึ่งกรณีที่มีฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตรเครื่องก็จะรายงานเข้ามาที่ คอนโทรล บล็อก และเชื่อมต่อไปยังเครื่องควบคุมที่กรมทรัพยากรธรณี โดยจะแจ้งเตือนเป็นไฟสี คือ สีเหลือ และสีเขียว
หลังจากเครื่องส่งสัญญาณเตือนถ้าเป็นไฟสีเหลือง ทางส่วนกลางก็จะแจ้งมายังจังหวัด และหน่วยงานท้องถิ่นทราบเพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังซึ่งมีเวลาในการอพยพประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นไฟสีแดง จะมีเวลาอพยพประมาณ 30 นาที ซึ่งการติดตั้งเครื่องมือดังกล่าวเป็นการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า สำหรับการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดมวลดินที่ภูเก็ตนั้นมีการติดตั้ง จำนวน 2 เครื่อง มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท มีการตรวจวัดข้อมูลที่สำคัญ 3 ด้านคือ 1.ปริมาณน้ำฝน 2.ตรวจวัดระดับน้ำใต้ดินบนลาดเขา และ 3.ตรวจการเคลื่อนตัวของมวลดิน
ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำไปประมวลผลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อหาเสถียรภาพของลาดดินในบริเวณดังกล่าว หากเสถียรภาพของลาดดินเริ่มขาดเสถียรภาพ เครื่องมือจะเริ่มส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังภัยทราบ และในกรณีเสถียรภาพของลาดดินอยู่ในชั้นวิกฤต หรือเริ่มมีการขยับตัวของลาดดิน เครื่องมือดังกล่าวจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนผ่านเว็บไซต์ เจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรธรณีจะทำการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งเตือนและอพยพประชาชนในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าตอง และกะรน
วันนี้ (23 ส.ค.) นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดการเคลื่อนตัวของมวลดิน เพื่อคอยติดตามการเคลื่อนตัวของดินบริเวณภูเขาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นมาตรการการเตือนภัยล่วงหน้ากรณีดินสไลด์-ดินถล่มในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่บริเวณสำนักสงฆ์ดอยเทพนิมิต อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งกรมทรัพยากรธรณี เสนอนำมาติดตั้งที่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 2 ชุด เนื่องจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มจำนวนหลายจุดด้วยกัน โดยมีนายถวัลย์ สุขโข ผู้อำนวยการศูนย์เครื่องจักรกล สำนักเทคโนโลยีธรณี กรมทรัพยากรธรณี ให้การต้อนรับ และชี้แจงความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องตรวจวัดมวลดินเพื่อแจ้งเตือนภัยล่วงหน้ากรณีดินสไลด์ ดินถล่ม ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
โดยนายถวัลย์ กล่าวว่า สำหรับการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดมวลดินที่บริเวณสำนักสงฆ์เทพนิมิต บนเทือกเขานาคเกิด อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้ดำเนินการติดตั้งมาตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจุดนี้เป็นการติดตั้งจุดแรก สาเหตุที่เลือดจุดนี้เนื่องจากมีความลาดเอียงของดินที่เหมาะในการดำเนินการซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับบริเวณอื่นๆ ซึ่งการติดตั้งนั้นมีการเจาะแท่งเหล็กซึ่งเป็นตัวส่งสัญญาณมาที่คอนโทรล บล็อก จำนวน 5 ตัว ลึกลงไปประมาณ 8 เมตร ชนถึงชั้นดินดาน ซึ่งขณะนี้การติดได้ดำเนินการเสร็จแล้ว นอกจากนั้น ยังมีการติดตั้งเทอมิเนอร์ จำนวน 3 ตัว เพื่อวัดแรงสั่นสะเทือน การเคลื่อนตัวของชั้นดิน และปริมาณน้ำฝน และหลังจากนี้จะมีการเฝ้าสังเกตการณ์ ซึ่งกรณีที่มีฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตรเครื่องก็จะรายงานเข้ามาที่ คอนโทรล บล็อก และเชื่อมต่อไปยังเครื่องควบคุมที่กรมทรัพยากรธรณี โดยจะแจ้งเตือนเป็นไฟสี คือ สีเหลือ และสีเขียว
หลังจากเครื่องส่งสัญญาณเตือนถ้าเป็นไฟสีเหลือง ทางส่วนกลางก็จะแจ้งมายังจังหวัด และหน่วยงานท้องถิ่นทราบเพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังซึ่งมีเวลาในการอพยพประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นไฟสีแดง จะมีเวลาอพยพประมาณ 30 นาที ซึ่งการติดตั้งเครื่องมือดังกล่าวเป็นการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า สำหรับการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดมวลดินที่ภูเก็ตนั้นมีการติดตั้ง จำนวน 2 เครื่อง มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท มีการตรวจวัดข้อมูลที่สำคัญ 3 ด้านคือ 1.ปริมาณน้ำฝน 2.ตรวจวัดระดับน้ำใต้ดินบนลาดเขา และ 3.ตรวจการเคลื่อนตัวของมวลดิน
ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำไปประมวลผลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อหาเสถียรภาพของลาดดินในบริเวณดังกล่าว หากเสถียรภาพของลาดดินเริ่มขาดเสถียรภาพ เครื่องมือจะเริ่มส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังภัยทราบ และในกรณีเสถียรภาพของลาดดินอยู่ในชั้นวิกฤต หรือเริ่มมีการขยับตัวของลาดดิน เครื่องมือดังกล่าวจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนผ่านเว็บไซต์ เจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรธรณีจะทำการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งเตือนและอพยพประชาชนในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าตอง และกะรน
