ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แยบยล! ชาวโรฮิงญาตะโกนร้องเพลงกลบเสียงเลื่อยลูกกรงห้องขัง ก่อนใช้ผ้าขาวม้าโรยตัวหลบหนีออกจาก สภ.สะเดา กว่า ตร.จะรู้ตัวก็หลบหนีออกไปได้ทั้ง 30 คนแล้ว เร่งล้อมคอกตรวจห้องขัง สภ.ปาดังเบซาร์ ยึดโทรศัพท์มือถือ และเหล็กแหลมไว้ได้
วันนี้ (9 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวโรฮิงญา จำนวน 30 คน ที่ ตม.สะเดา นำตัวมาฝากขังไว้ที่ห้องขัง สภ.สะเดา จ.สงขลา ได้ใช้เลื่อยเหล็กเลื่อยลูกกรงเหล็กในห้องขัง จำนวน 2 ซี่ และพากันหลบหนีตั้งแต่เวลาประมาณ 03.30 น. ของวันเดียวกัน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสิบเวรมาทราบเหตุว่าชาวโรฮิงญาพากันหลบหนีเมื่อเวลา 05.00 น. เพราะเห็นว่าเงียบผิดปกติ เนื่องจากช่วงเช้าเวลา 05.00 น. ชาวโรฮิงญาจะลุกขึ้นมาทำพิธีละหมาดทุกวัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า ชาวโรฮิงญาน่าจะมีการวางแผนหลบหนี โดยช่วงเวลาที่ทำการเลื่อยลูกกรงเหล็กได้ส่งเสียงร้องเพลงเสียงดังลั่น และสิบเวรได้ไปห้ามปรามไม่ให้ส่งเสียงดัง แต่ไม่ทราบว่าเป็นการส่งเสียงกลบเสียงเลื่อยตัดเหล็ก และหลังจากตัดลูกกรงได้สำเร็จจึงใช้ผ้าขาวม้ามัดต่อกันเพื่อโรยตัวลงมาด้านล่าง พากันหลบหนีออกจาก สภ.สะเดา โดยลอดรั้วทางด้านข้าง สภ.สะเดา ซึ่งเป็นถนนกาญจวนิชย์ ก่อนที่จะพากันวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนที่ สภ.ปาดังเบซาร์ พ.ท.ท.ชยุต อารีบำบัด พงส.ผนพ.ปรภ.หน.สภ.ปาดังเบซาร์ รักษาราชการแทน ผกก.สภ.ปาดังฯ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความเรียบร้อย และเข้าตรวจค้นสัมภาระของชาวโรฮิงญาที่ดูแลอยู่ จำนวน 20 คน พบโทรศัพท์มือถือ และเหล็กแหลมจำนวนหนึ่ง จึงได้ตรวจยึดเอาไว้
ทั้งนี้ พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา หลังจากได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ไผ่พนา เพ็ชรเย็น ผกก.สภ.สะเดา ได้เดินทางพร้อมคณะไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสัญญาบัตร พร้อมทั้งตั้งชุดคณะกรรมการทำการสอบสวนสิบเวร และตำรวจที่รับผิดชอบเวรยามคืนเกิดเหตุว่ามีข้อบกพร่องอย่างไร โดยเฉพาะการนำเลื่อยตัดเหล็กเข้าไปภายในห้องขัง
