ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สาวใหญ่ชาวลำพูน วัย 54 ปี บ่นเครียด จึงแอบผูกคอตายทิ้งสามี และลูกชายภายในแคมป์คนงานก่อสร้างพื้นที่ตำบลรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่เก็บหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุการตายต่อไป
วันนี้ (14 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต รับแจ้งมีคนผูกคอตายที่บ้านไม่มีเลขที่ภายในแคมป์คนงานก่อสร้างภายในซอย 1 ชุมชนกิ่งแก้วอุทิศ ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้ง ร.ต.ท.ไกรสร ภาคอารีย์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง สารวัตรพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุที่บ้านไม่มีเลขที่ภายในแคมป์คนงานก่อสร้างอยู่ในซอยดังกล่าว ปลูกสร้างด้วยไม้ และปิดทับด้วยสังกะสี พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นางแสงเงิน ทรายโรจน์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/1 ม.8 ต.บ้านแป้น อ.เมือง จ.ลำพูน สภาพนุ่งกางเกงยีนส์ขาสามส่วนสีดำ สวมเสื้อยืดสีแดง นอนหงาย ที่บริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำ ใกล้กันพบสามีของผู้ตายกำลังนั่งเสียใจอยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อ นายสมาน สร้อยพวง อายุ 45 ปี อยู่ที่ ต.เจริญธรรม อ.วิหารแดง จ.สระบุรี อยู่ในการมึนเมา
จากการสอบถาม นายสมาน สามีผู้ตายกล่าวว่า ก่อนเหตุตนเองไม่ได้อยู่บ้าน มีเพียงภรรยาอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว ซึ่งตนเองได้ออกจากบ้านตอนเช้า แล้วไปบ้านเพื่อน จากนั้นจึงนั่งดื่มเหล้า ก่อนเดินทางกลับมาบ้านในเวลา 16.00 น. ของวันนี้ ก็พบภรรยาใช้ผ้าขาวม้าลายสกอตผูกติดกับเขื่อภายในบ้าน ตนเห็นจึงได้เรียกเพื่อนบ้านเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมได้แกะผ้าขาวม้า แต่ภรรยาได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว โดยตนเองก็ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมภรรยาจึงผูกคอตาย เพื่อนบ้านจึงได้แจ้งตำรวจให้มาตรวจที่เกิดเหตุ
ด้านบุตรชายของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ตนเองไม่ได้ไปโรงเรียนในวันนี้ เนื่องจากเป็นไข้ ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนเองได้นอนอยู่ในบ้านใกล้เคียงกัน โดยไม่ทราบว่า แม่ผูกคอตายตอนไหน เพราะช่วงบ่ายโมงแม่ได้ชวนตนมากินข้าวด้วยกันอยู่ พอกินข้าวเสร็จตนได้เข้าไปนอน หลังจากนั้นพ่อได้มาเรียกและบอกว่า แม่ผูกคอตายแล้ว จากนั้นจึงรีบลุกขึ้นมาดูและตกใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุแม่ก็บ่นให้ฟังอยู่บ่อยครั้งว่า จะผูกคอตายให้พ้นๆ จะได้ไม่ต้องเครียดอะไรอีก แต่ก็ไม่คิดว่าแม่จะผูกคอตายจริง
เบื้องต้นในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะสืบสวนหาสาเหตุของการตายที่แท้จริงอีกครั้ง โดยได้มอบศพผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ส่งไปชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตต่อไป