ตรัง - พิษมรสุมส่งผลให้ต้นสน ถนน และชายหาดปากเมง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของตรัง ได้รับผลกระทบหนักจากคลื่นกัดเซาะ ทางจังหวัดจับมือหลายฝ่ายร่วมใจทำแนวป้องกันชั่วคราวแก้ปัญหาเฉพาะหน้าระหว่างรอสรรงบ 250 ล้าน เพื่อทำแนวกันคลื่น
นายวินัย ชูเสียงแจ้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 บ้านหาดปากเมง ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้นทุกๆ ปี จนทำให้เกิดปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และที่บริเวณหาดปากเมง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับ 1 ของจังหวัดตรัง ก็ถือเป็นจุดที่มีความรุนแรงอันดับ 3 ของภาคใต้ฝั่งอันดามัน จนได้ส่งผลให้ต้นสนเก่าแก่อายุ 40-50 ปี ซึ่งขึ้นอยู่ตามธรรมชาติตลอดแนวชายหาดด้วยระยะทางประมาณ 1,200 เมตร ต้องล้มตายลงไปจนเหลือเพียงแค่ 92 ต้น จากที่เคยมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 200 ต้น รวมทั้งยังทำให้แนวชายหาดหดหายไปปีละหลายสิบเซนติเมตร จนถนนเลียบแนวชายหาดปากเมงในบางจุด โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้ๆ กับเขื่อนกันคลื่นกำลังจะถูกตัดขาดแล้ว
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างถาวร คือ การก่อสร้างแนวกันคลื่นเทียมนั้น ต้องใช้เวลานาน เพราะต้องรอการจัดตั้งงบประมาณที่สูงถึง 250 ล้านบาท รวมทั้งต้องรอให้ผ่านกระบวนการประชาพิจารณ์เสียก่อน ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในช่วงหน้ามรสุมนี้ ก่อนที่ทั้งต้นสน แนวชายหาด และถนนจะเสียหายไปทั้งหมด ทุกฝ่ายในพื้นที่จึงได้ร่วมใจกันทำแนวป้องกันคลื่นขึ้นมาแบบชั่วคราว
ด้าน นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า เบื้องต้นได้มีการแก้ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งแบบชั่วคราว ด้วยการนำกระสอบป่านมาบรรจุทราย แล้ววางเป็น 2 แถว ให้มีความสูง 4 ชั้น ตลอดแนวชายหาดปากเมง ในระยะทาง 1,200 เมตร ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และเยาวชนในพื้นที่อำเภอสิเกา จนกว่าทางจังหวัดจะได้งบมาสร้างแนวกันคลื่นเทียมเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคต
นายวินัย ชูเสียงแจ้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 บ้านหาดปากเมง ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้นทุกๆ ปี จนทำให้เกิดปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และที่บริเวณหาดปากเมง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับ 1 ของจังหวัดตรัง ก็ถือเป็นจุดที่มีความรุนแรงอันดับ 3 ของภาคใต้ฝั่งอันดามัน จนได้ส่งผลให้ต้นสนเก่าแก่อายุ 40-50 ปี ซึ่งขึ้นอยู่ตามธรรมชาติตลอดแนวชายหาดด้วยระยะทางประมาณ 1,200 เมตร ต้องล้มตายลงไปจนเหลือเพียงแค่ 92 ต้น จากที่เคยมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 200 ต้น รวมทั้งยังทำให้แนวชายหาดหดหายไปปีละหลายสิบเซนติเมตร จนถนนเลียบแนวชายหาดปากเมงในบางจุด โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้ๆ กับเขื่อนกันคลื่นกำลังจะถูกตัดขาดแล้ว
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างถาวร คือ การก่อสร้างแนวกันคลื่นเทียมนั้น ต้องใช้เวลานาน เพราะต้องรอการจัดตั้งงบประมาณที่สูงถึง 250 ล้านบาท รวมทั้งต้องรอให้ผ่านกระบวนการประชาพิจารณ์เสียก่อน ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในช่วงหน้ามรสุมนี้ ก่อนที่ทั้งต้นสน แนวชายหาด และถนนจะเสียหายไปทั้งหมด ทุกฝ่ายในพื้นที่จึงได้ร่วมใจกันทำแนวป้องกันคลื่นขึ้นมาแบบชั่วคราว
ด้าน นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า เบื้องต้นได้มีการแก้ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งแบบชั่วคราว ด้วยการนำกระสอบป่านมาบรรจุทราย แล้ววางเป็น 2 แถว ให้มีความสูง 4 ชั้น ตลอดแนวชายหาดปากเมง ในระยะทาง 1,200 เมตร ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และเยาวชนในพื้นที่อำเภอสิเกา จนกว่าทางจังหวัดจะได้งบมาสร้างแนวกันคลื่นเทียมเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคต
