xs
xsm
sm
md
lg

ททท.ใช้วิถีความเป็นไทยเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวให้ได้ 2.2 ล้านล้านในปี 58

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดแผนตลาดท่องเที่ยวปี 2557-2558 “สร้างรายได้แบบก้าวกระโดด ด้วยวิถีไทย” เพื่อเพิ่มรายได้ให้ทะลุ 2.2 ล้านล้านบาท ในปี 58 คงรักษาตลาดเดิมทั้งยุโรป และอเมริกา พร้อมรุกตลาดใหม่ในระดับกลางในเอเชีย และแปซิฟิกที่โตแบบก้าวกระโดด ทั้งจีน และรัสเซีย ด้วยแคมเปญ “Amazing Thailand : Happiness You Can Share” และตลาดคนไทยด้วยแคมเปญ “หลงรัก ประเทศไทย” กระจายนักท่องเที่ยวสู่พื้นที่ท่องเที่ยวรองมากขึ้น ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตปีนี้ทะลุ 12 ล้านคน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 250,000 ล้านบาท

นายชาญชัย ดวงจิตต์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต เปิดเผยถึงแนวทางการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประจำปี 2557 ว่า ททท.ได้แถลงแผนการดำเนินงานด้านการตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวประจำปี 2557-2558 เมื่อวันที่ 8 ก.ค.2556 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยหัวใจสำคัญ หรือทิศทางของแผนการตลาดในปี 2557-2558 คือ “รายได้ก้าวกระโดด ด้วยวิถีไทย” หรือ “Higher Revenue Through Thainess” เพื่อตอบสนองเป้าหมายด้านรายได้จากการท่องเที่ยว ตามที่รัฐบาลกำหนด จำนวน 2.2 ล้านล้านบาท ในปี 2558 นั้น ททท.ได้กำหนดแนวทางการตลาดที่จะเน้นกิจกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น โดยใช้วิถีไทย หรือเอกลักษณ์ความเป็นไทย เป็นจุดขายที่โดดเด่นเป็นพิเศษในช่วงปี 2557-2558

โดยวิถีความเป็นไทยที่จะใช้เป็นจุดขายที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ได้แก่ Thai Experience การเข้ามาเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์เอกลักษณ์ไทย เช่น มวยไทย อาหารไทย การแต่งงานแบบไทย Thai Way of Life วิถีชีวิตที่ดีงามของไทย เช่น การเคารพผู้ใหญ่ ความอ่อนน้อมถ่อมตน การไหว้ การทำบุญตักบาตร อัธยาศัยไมตรี เป็นต้น สำหรับจุดขายหลักที่จะเน้นพิเศษในปี 2557 คือ กลุ่มแต่งงาน และฮันนีมูน ดูแลสุขภาพ สปา การท่องเที่ยวชุมชนและวิถีไทย 

โดยมีเป้าหมายรายได้จากตลาดต่างประเทศ 1,300,000 ล้านบาท หรือเพิ่มในอัตรา 13% จากตลาดหลักที่ต้องรักษาไว้ คือ ตลาดยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง พร้อมทั้งเร่งทำตลาดแอฟริกา และรุกหนักในตลาดเอเชีย และแปซิฟิก เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวระดับกลางและระดับบนให้มากขึ้น และกำหนดยุทธศาสตร์ในการสร้างสมดุลระหว่างจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้สำหรับตลาดเติบโตก้าวกระโดด จีน รัสเซีย และอินเดีย โดยใช้แคมเปญ “Amazing Thailand : Happiness You Can Share” ส่วนตลาดในประเทศตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 700,000 บาท หรือเพิ่มขึ้น 9%โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มวัยทำงาน กลุ่มเยาวชน กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มครอบครัว กลุ่มท่องเที่ยวเชิงศาสนา และกลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ใช้แคมเปญ “หลงรัก ประเทศไทย” พร้อมทั้งกระจายนักท่องเที่ยวไปยังตลาดรองมากขึ้น

สำหรับโครงการของภูมิภาคภาคใต้นั้น จะมีการส่งเสริมการตลาดในช่วงกรีนซีซันให้มากขึ้น โดยการร่วมมือกับสายการบินต่างๆ ในการจัดเพกเกจราคาพิเศษ จัดกิจกรรม Big Bike Riding South โดยร่วมกับสมาคม Big Bike ในพื้นที่ ภูเก็ต หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา และกระบี่ หมุนเวียนตลาดทั้งปี จัดโครงการ Let s Go South โครงการเที่ยวใต้เที่ยวใต้ โครงการสองน่อง...ท่องใต้ เป็นต้น

นายชาญชัย ยังกล่าวภาพรวมการท่องเที่ยวของภูเก็ต ว่า ในปี 2555 ที่ผ่านมา ภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 230,000 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 200,000 ล้านบาท และนักท่องเที่ยวไทย 30,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2556 นี้ รายได้จากการท่องเที่ยวของภูเก็ตจะทะลุ 250,000 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเข้ามาทะลุ 12 ล้านคนอย่างแน่นอน โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น 15-16% โดยนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ตสูงเป็นอันดับ 1 ในขณะนี้ คือ นักท่องเที่ยวจีน ที่เข้ามาภูเก็ตเมื่อปีที่แล้วเกือบ 1 ล้านคน และในปีนี้คาดว่าจะเกิน 1 ล้านคนอย่างแน่นอน เพราะภูเก็ตได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนจีนไปแล้วในขณะนี้

ผอ.ททท. ภูเก็ต ยังกล่าวถึงการดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาภูเก็ตเพื่อเพิ่มรายได้ทางการท่องเที่ยว ว่า ททท.สำนักงานภูเก็ต จะใช้แผนการตลาดเพิ่มรายได้ตามที่ทาง ททท.สำนักงานใหญ่ได้มีการแถลงไปแล้ว เพราะแผนดังกล่าวเป็นแผนที่มุ่งเพิ่มรายได้ทางการท่องเที่ยว เพื่อทำให้ภูเก็ตกลายเป็นลักซูรีเดสติเนชัน โดยการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพเข้ามามากขึ้นในปี 2557-2558 ทั้งกลุ่มสปา ฮันนีมูน กอล์ฟ กลุ่มประชุมสัมมนา เรือใบ เป็นต้น ซึ่งภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงนักท่องเที่ยวต้องการที่จะเดินทางเข้ามา เราไม่สามารถที่จะกีดกันนักท่องเที่ยวที่ไม่มีคุณภาพให้เดินทางเข้ามาได้ ซึ่งเราจะต้องทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีคุณภาพขึ้น โดยการทำสินค้าทางการท่องเที่ยวของภูเก็ตให้มีราคาเพิ่มขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวระดับล่างที่ไม่มีคุณภาพย้ายไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีราคาเหมาะสมต่อไป
นายชาญชัย ดวงจิตต์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต




 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น