xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่าย ปชช.4 จชต.ยื่นหนังนายกฯ มาเลย์ตรวจสอบ เหตุเสียชีวิตระหว่างเจรจาสันติ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายภาคประชาชนใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ยื่นหนังสือให้แก่กงสุลใหญ่มาเลเซียประจำ จ.สงขลา ผ่านไปยังนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อให้ตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตของพลเรือน และผู้นำศาสนามากขึ้นในระหว่างการเจรจาสันติภาพ

วันนี้ (1 ส.ค.) ที่หน้าสถานกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำภาคใต้ จังหวัดสงขลา มวลชน 4 กลุ่มจากภาคประชาสังคม ประกอบด้วย เครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ เครือข่ายครูตาดีกาและนักศึกษามุสลิม เครือข่ายโต๊ะอิหม่าม และเครือข่ายประชาสังคมเพื่อสันติภาพ ประมาณ 200 คน โดยมี นายธรรมรัตน์ อาลีลาเต๊ะ แกนนำเครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ รวมตัวยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ผ่านนายมูฮัมหมัด ไพซอล บิน ราซาลี กงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำภาคใต้ จังหวัดสงขลา

เพื่อต้องการให้รัฐบาลมาเลเซีย ร่วมกำหนดมาตรการคุ้มครองชาวไทยมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา โดยอ้างว่า ในห้วงที่ผ่านมา มีการลอบสังหารพลเรือน และกลุ่มผู้นำศาสนาหลายคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นชาวไทยมุสลิมบริสุทธิ์ เชื่อว่าการคลี่คลายความกังวลอันเป็นผลมาจากเหตุการณ์เหล่านี้ ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่มีการพูดคุยเพื่อสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทย และกลุ่มบีอาร์เอ็น ภายใต้การอำนวยความสะดวกของมาเลเซีย จะช่วยสร้างบรรยากาศของสันติภาพได้

นายธรรมรัตน์ อาลีลาเต๊ะ แกนนำเครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพลเรือน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ง่ายต่อการโจมตี โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อสังคมในพื้นที่ เช่น ครูตาดีกา และผู้นำศาสนา รวมไปถึงสมาชิกของกลุ่มเครือข่ายหลายต่อหลายคน ได้ถูกลอบสังหารถี่ขึ้น หลังจากที่รัฐบาลไทย และแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติปาตานี หรือบีอาร์เอ็นได้เริ่มพูดคุยสันติภาพกันตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556

แม้ว่าที่ผ่านมา กลุ่มเครือข่ายฯ ได้ใช้ความพยายามหลายครั้งเพื่อเรียกร้องต่อทางการไทยให้ตรวจสอบกรณีเหล่านี้ แต่กลับไม่ได้รับความสนใจแต่อย่างใด แต่กลับถูกหวาดระแวงและเป็นที่จับตามองของเจ้าหน้าที่รัฐมาก ทั้ง 4 องค์กรจึงรวมตัว และขอเรียกร้องให้ทางรัฐบาลมาเลเซีย ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยและแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติปาตานี ได้ “จัดตั้งกลไกการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพลเรือนถูกลอบสังหารท่ามกลางการพูดคุยสันติภาพ”

ทั้งนี้ เพื่อช่วยคลี่คลายความวิตกกังวลของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งของสาธารณชนทั่วไป สร้างบรรยากาศของความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันให้มีมากขึ้น ทั้งยังจะช่วยสร้างความรู้สึกว่ามีความปลอดภัยในพื้นที่ อันจะเป็นผลดีต่อการเจรจาด้วย
 
 




 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น