"บัวแก้ว" ยันข้าวไทยไม่โดนสหรัฐฯกัด อ้าง 46 ผู้ค้าข้าวไทยได้รับการงดเว้นการตรวจ แต่ชื่ออยู่ถัดจาก "เรดลิสต์" ทำสับสน คุยมะกันนำข้าวเพิ่มจากปีก่อนด้วยซ้ำ
ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเสก วรรณเมธี อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงชี้แจงกรณีเกิดกระแสข่าวสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ มีคำสั่งให้กักสินค้าข้าวของไทย เนื่องจากพบว่า มีการใช้สารเคมีรมควันว่า จากการตรวจสอบกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ยืนยันว่า ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น โดยทางการสหรัฐฯไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการปฏิบัติต่อข้าวไทยแต่อย่างใด นอกจากนี้ ในช่วงเดือน ม.ค. - เม.ย. 2556 สหรัฐฯยังนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2555
"ยืนยันว่า สหรัฐฯไม่ได้มีการกักข้าวจากประเทศไทย โดยสหรัฐฯจะทำงานร่วมกับไทยต่อไปเพื่อให้การนำเข้าส่งออกข้าว ระหว่างไทยและสหรัฐฯให้มีมาตรฐานความปลอดภัยต่อผู้บริโภค" นายเสข ระบุ
นายเสก กล่าวอีกว่า ต้นตอของเรื่องนี้ มาจากคำสั่งของเอฟดีเอ เมื่อ 28 พ.ค.2556 ออกคำสั่งตรวจสอบผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มาจากข้าวเพิ่มเติมจาก จีน ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และไทย เนื่องจากพบสารเจือปน แต่ในปัจจุบันยังไม่พบรายชื่อของบริษัทไทยที่อยู่ในรายชื่อเรดลิสต์ที่จะต้องถูกกักสินค้าเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม แต่มีรายชื่อของบริษัทไทย 46 แห่ง อยู่ในรายชื่อกรีนลิสต์ซึ่งหมายความว่าได้รับการงดเว้นการสุ่มตรวจจากเอฟดีเอ
อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ เปิดเผยด้วยว่า ขณะที่ทางกรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ก็ยืนยันว่า ข้าวไทยที่ได้รับการส่งออกไปสหรัฐนั้นมีราว 3-4 แสนตันต่อปี และได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานอาหารและยา (อย.) อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศ ได้กำชับให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ที่กรุงวอชิงตัน และสถานกงสุลใหญ่ ในนครนิวยอร์ก ติดตามการรายงานของสื่อท้องถิ่นในสหรัฐอย่างใกล้ชิดด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงรายชื่อบริษัทไทย ที่ปรากฎอยู่ในลิสต์ของทางเอฟดีเอ นายเสข กล่าวว่า เป็นรายชื่อของ 46 บริษัทไทยที่ได้รับการงดเว้นการสุ่มตรวจ แต่เขียนถัดลงมาจากเรดลิสต์ของเอฟดีเอ จึงอาจทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสน