ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูเก็ต ระบุระเบิดใกล้โรงจอดรถด้านข้างสำนักงาน อบจ.ภูเก็ต เป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบตั้งเวลา เชื่อเป็นการข่มขู่ เนื่องจากระเบิดมีอานุภาพการทำลายต่ำ ขณะที่นายก อบจ.เชื่อเป็นการข่มขู่มากกว่าหวังเอาชีวิต มูลเหตุคาดเกิดจากเรื่องการทำงานโปร่งใสตรงไปตรงมา เผยเรื่องที่ อบจ.กำลังดำเนินการในขณะนี้คือ ปรับขึ้นราคาค่าการเช่าที่ดินหลายแปลงของ อบจ.ภูเก็ต
สำหรับความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณโรงรถด้านข้างสำนักงาน อบจ.ภูเก็ต อยู่ภายในศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ถ.นริศร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นที่จอดรถของฝ่ายบริหาร รวมทั้งรถของนายก อบจ.ภูเก็ต โดยระเบิดดังกล่าวได้ถูกซุกซ่อนไว้ในถังขยะสีฟ้า ห่างจากรถตู้ป้ายทะเบียน นข 3383 ของ อบจ.ประมาณ 2-3 เมตร แรงระเบิดทำให้รถที่จอดบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย 5 คัน ส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ยกเว้นรถตู้ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และรถสวิฟต์ ป้ายทะเบียน กย 2719 ภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.เสน่ห์ ยาวิละ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.สืบสวนจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด (EOD) ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลังฐานตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้น พบว่า ชิ้นส่วนของวัตถุระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ รวมทั้งเศษถังขยะ พบเศษถ่านไฟฉาย ชิ้นส่วนนาฬิกาคาสิโอที่กระเด็นมาไกลจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 เมตร ซึ่งจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ชุด EOD ระบุระเบิดในครั้งนี้เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ใช้นาฬิกาเป็นตัวตั้งเวลาในการจุดชนวน โดยคนร้ายนำไปวางไว้ในถังขยะใกล้กับโรงจอดรถ และตั้งเวลาให้ระเบิดในเวลา 14.00 น. โดยแรงระเบิดสามารถที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อคนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ เพราะมีแรงดันมากพอสมควร ดูได้จากรถตู้ที่ยุบหลายจุด และกระจกแตก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.เสน่ห์ ยาวิละ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่อง จุดชนวนด้วยนาฬิกาแบบตั้งเวลา อานุภาพไม่ร้ายแรง เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดในครั้งนี้ต้องการที่จะข่มขู่มากกว่าการเอาชีวิต เนื่องจากจุดที่วางนั้นเป็นโรงจอดรถที่คนไม่พลุกพล่าน เวลาที่กำหนดให้ระเบิดไม่ใช่เวลาเลิกงาน ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่าสาเหตุแท้จริงเกิดจากอะไร ในเบื้องต้น ตั้งประเด็นเรื่องของการข่มขู่ แต่ข่มขู่เรื่องอะไรยังต้องสืบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนเรื่องของการรักษาความปลอดภัยนั้นจะต้องเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต เพราะจุดที่เกิดเหตุไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว
ขณะที่นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปกติรถยนต์ที่ตนใช้ประจำจะจอดอยู่ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุ เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นการข่มขู่สร้างสถานการณ์ให้กลัวมากกว่าที่เอาชีวิต ส่วนสาเหตุของการวางระเบิดนั้นโดยส่วนตัวไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหากับใคร เป้าหมายไม่น่าจะเป็นตน ส่วนเรื่องของปัญหาความขัดแย้งภายในก็ไม่มี ถ้าจะมีปัญหาก็น่าจะเป็นเรื่องของการทำงานที่ อบจ.ภูเก็ต ทำอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาการเช่าที่ดินของ อบจ. ภูเก็ต ที่ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเรื่องการให้เช่าที่ดินหลายแปลง ซึ่งมีการปรับขึ้นราคาสูงขึ้นกว่าเดิมมาก
อย่างไรก็ตาม เรื่องของการข่มขู่ ตนคิดว่าไม่น่าจะทำกันแบบนี้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวให้เสียหายได้ และที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีเรื่องของการโทรศัพท์มาข่มขู่แต่อย่างใด ส่วนเรื่องของการเมืองเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะการเมืองในภูเก็ตเล่นกันแบบมืออาชีพ เลือกตั้งจบก็จบกัน และที่สำคัญในส่วนของการเลือกตั้งก็ผ่านมา 2 ปี แล้ว จึงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนสำหรับปัญหาในเรื่องการเมือง อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ทาง อบจ.ภูเก็ต จะเพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้น
ขณะที่ น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เหตุการณ์ลอบวางระเบิดในครั้งนี้คนร้ายน่าจะทำเพื่อเป็นการข่มขู่เพื่อสร้างสถานการณ์มากกว่าจะทำเพื่อหวังเอาชีวิตใคร เนื่องจากระเบิดที่วางเป็นระเบิดขนาดเล็ก ส่วนการวางระเบิดในครั้งนี้ทำเพื่อข่มขู่ใคร และสาเหตุจากเรื่องอะไรนั้น ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนต่อไป แต่ยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องของการเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ราชการคงจะต้องจัดกำลังดูแลมากขึ้น
สำหรับความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณโรงรถด้านข้างสำนักงาน อบจ.ภูเก็ต อยู่ภายในศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ถ.นริศร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นที่จอดรถของฝ่ายบริหาร รวมทั้งรถของนายก อบจ.ภูเก็ต โดยระเบิดดังกล่าวได้ถูกซุกซ่อนไว้ในถังขยะสีฟ้า ห่างจากรถตู้ป้ายทะเบียน นข 3383 ของ อบจ.ประมาณ 2-3 เมตร แรงระเบิดทำให้รถที่จอดบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย 5 คัน ส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ยกเว้นรถตู้ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และรถสวิฟต์ ป้ายทะเบียน กย 2719 ภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.เสน่ห์ ยาวิละ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.สืบสวนจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด (EOD) ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลังฐานตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้น พบว่า ชิ้นส่วนของวัตถุระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ รวมทั้งเศษถังขยะ พบเศษถ่านไฟฉาย ชิ้นส่วนนาฬิกาคาสิโอที่กระเด็นมาไกลจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 เมตร ซึ่งจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ชุด EOD ระบุระเบิดในครั้งนี้เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ใช้นาฬิกาเป็นตัวตั้งเวลาในการจุดชนวน โดยคนร้ายนำไปวางไว้ในถังขยะใกล้กับโรงจอดรถ และตั้งเวลาให้ระเบิดในเวลา 14.00 น. โดยแรงระเบิดสามารถที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อคนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ เพราะมีแรงดันมากพอสมควร ดูได้จากรถตู้ที่ยุบหลายจุด และกระจกแตก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.เสน่ห์ ยาวิละ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่อง จุดชนวนด้วยนาฬิกาแบบตั้งเวลา อานุภาพไม่ร้ายแรง เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดในครั้งนี้ต้องการที่จะข่มขู่มากกว่าการเอาชีวิต เนื่องจากจุดที่วางนั้นเป็นโรงจอดรถที่คนไม่พลุกพล่าน เวลาที่กำหนดให้ระเบิดไม่ใช่เวลาเลิกงาน ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่าสาเหตุแท้จริงเกิดจากอะไร ในเบื้องต้น ตั้งประเด็นเรื่องของการข่มขู่ แต่ข่มขู่เรื่องอะไรยังต้องสืบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนเรื่องของการรักษาความปลอดภัยนั้นจะต้องเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต เพราะจุดที่เกิดเหตุไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว
ขณะที่นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปกติรถยนต์ที่ตนใช้ประจำจะจอดอยู่ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุ เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นการข่มขู่สร้างสถานการณ์ให้กลัวมากกว่าที่เอาชีวิต ส่วนสาเหตุของการวางระเบิดนั้นโดยส่วนตัวไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหากับใคร เป้าหมายไม่น่าจะเป็นตน ส่วนเรื่องของปัญหาความขัดแย้งภายในก็ไม่มี ถ้าจะมีปัญหาก็น่าจะเป็นเรื่องของการทำงานที่ อบจ.ภูเก็ต ทำอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาการเช่าที่ดินของ อบจ. ภูเก็ต ที่ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเรื่องการให้เช่าที่ดินหลายแปลง ซึ่งมีการปรับขึ้นราคาสูงขึ้นกว่าเดิมมาก
อย่างไรก็ตาม เรื่องของการข่มขู่ ตนคิดว่าไม่น่าจะทำกันแบบนี้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวให้เสียหายได้ และที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีเรื่องของการโทรศัพท์มาข่มขู่แต่อย่างใด ส่วนเรื่องของการเมืองเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะการเมืองในภูเก็ตเล่นกันแบบมืออาชีพ เลือกตั้งจบก็จบกัน และที่สำคัญในส่วนของการเลือกตั้งก็ผ่านมา 2 ปี แล้ว จึงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนสำหรับปัญหาในเรื่องการเมือง อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ทาง อบจ.ภูเก็ต จะเพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้น
ขณะที่ น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เหตุการณ์ลอบวางระเบิดในครั้งนี้คนร้ายน่าจะทำเพื่อเป็นการข่มขู่เพื่อสร้างสถานการณ์มากกว่าจะทำเพื่อหวังเอาชีวิตใคร เนื่องจากระเบิดที่วางเป็นระเบิดขนาดเล็ก ส่วนการวางระเบิดในครั้งนี้ทำเพื่อข่มขู่ใคร และสาเหตุจากเรื่องอะไรนั้น ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนต่อไป แต่ยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องของการเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ราชการคงจะต้องจัดกำลังดูแลมากขึ้น