ระนอง-ทหารชุดปฏิบัติการฉลามระนอง จับชาวพม่าลักลอบหนีเข้าเมือง 31 คน ขณะใช้เรือหางยาวเดินทางเข้าประเทศไทยด้าน จ.ระนอง ขณะที่คนขับเรือเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่กระโดดน้ำหวังหลบหนี แต่ไปไม่รอดต้องร้องขอความช่วยเหลือ เหตุคลื่นลมแรง
เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (31 ก.ค.) ที่เกาะโพธิ์ อ.เมือง จ.ระนอง ทหารชุดปฎิบัติการฉลาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 (ฉก.ร.25) ร่วมกันจับกุมชาวพม่า จำนวน 31 คน ขณะกำลังลักลอบเข้าประเทศไทยด้านจังหวัดระนอง โดยใช้เรือหางยาวเป็นพาหนะในการเดินทาง สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ พ.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 (ฉก.ร.25) กองกำลังเทพสตรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้รับรายงานจากสายข่าวว่า มีเรือหางยาวดัดแปลงเป็นเรือประมงพื้นบ้าน กำลังลักลอบขนแรงงานชาวพม่าหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
จึงสั่งการ ให้ จ.ส.อ.สุรศาสน์ บัวเพชร หัวหน้าจุดตรวจเกาะสะระณีย์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการฉลาม นำเรือเร็วออกไปตรวจสอบ และเข้าจับกุมขบวนการขนบุคคลต่างด้าวเข้าราชอาณาจักรไทย และขณะที่เรือทหารกำลังลาดตระเวนไปจนถึงด้านทิศใต้ของเกาะช้าง และทิศเหนือของเกาะพยาม ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง อ.เมืองระนอง พบมีเรือหางยาวดัดแปลงเป็นเรือประมงพื้นบ้าน แล่นเข้ามาในน่านน้ำไทยด้วยความเร็ว เรือตรวจการณ์จึงแล่นตามไปจนทันที่เกาะโพธิ์ ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะพยาม จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้จอด แต่คนขับเรือหางยาวทราบชื่อภายหลัง คือ นายมงแหง่ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นชาวพม่า ได้กระโดดหนีลงทะเล
แต่เนื่องจากคลื่นลมแรงทำให้ไม่สามารถว่ายน้ำหลบหนีได้ จึงโบกมือร้องขอความช่วยเหลือ ทหารจึงเข้าช่วยเหลือนำขึ้นเรือในเวลาต่อมา ก่อนจะนำเรือพร้อมบุคคลต่างด้าวชาวพม่าไปตรวจสอบที่จุดตรวจเกาะสะระณีย์ พบมีจำนวน 31 คน แยกเป็นชาย 24 คน ผู้หญิง 7 คน และ 2 ใน 27 รับเป็นผู้นำพาชาวพม่าทั้งหมดเข้าประเทศไทย และจากการตรวจสอบพบว่า ทั้งหมดไม่มีเอกสารการเดินทางเข้าประเทศแต่อย่างใด
จากการสอบสวน นายทอลา อายุ 30 ปี ผู้ช่วยคนขับเรือชาวพม่าให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขับเรือมากับเพื่อน ในราคา 8,000 บาท โดยรับชาวพม่าทั้งหมดมาจากจังหวัดเกาะสอง เพื่อไปส่งพื้นที่ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง จากนั้นจะมีคนไทยนำรถมารับเพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่นๆ เคยทำมาแล้วหลายครั้ง บางครั้งจะแล่นเรือเข้ามาในเวลากลางคืน แต่ช่วงนี้คลื่นลมแรงและกลัวเรือจมจึงแอบลักลอบเข้ามาในตอนกลางวันจนกระทั่งถูกทหารไทยจับกุมในที่สุด
เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (31 ก.ค.) ที่เกาะโพธิ์ อ.เมือง จ.ระนอง ทหารชุดปฎิบัติการฉลาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 (ฉก.ร.25) ร่วมกันจับกุมชาวพม่า จำนวน 31 คน ขณะกำลังลักลอบเข้าประเทศไทยด้านจังหวัดระนอง โดยใช้เรือหางยาวเป็นพาหนะในการเดินทาง สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ พ.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 (ฉก.ร.25) กองกำลังเทพสตรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้รับรายงานจากสายข่าวว่า มีเรือหางยาวดัดแปลงเป็นเรือประมงพื้นบ้าน กำลังลักลอบขนแรงงานชาวพม่าหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
จึงสั่งการ ให้ จ.ส.อ.สุรศาสน์ บัวเพชร หัวหน้าจุดตรวจเกาะสะระณีย์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการฉลาม นำเรือเร็วออกไปตรวจสอบ และเข้าจับกุมขบวนการขนบุคคลต่างด้าวเข้าราชอาณาจักรไทย และขณะที่เรือทหารกำลังลาดตระเวนไปจนถึงด้านทิศใต้ของเกาะช้าง และทิศเหนือของเกาะพยาม ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง อ.เมืองระนอง พบมีเรือหางยาวดัดแปลงเป็นเรือประมงพื้นบ้าน แล่นเข้ามาในน่านน้ำไทยด้วยความเร็ว เรือตรวจการณ์จึงแล่นตามไปจนทันที่เกาะโพธิ์ ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะพยาม จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้จอด แต่คนขับเรือหางยาวทราบชื่อภายหลัง คือ นายมงแหง่ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นชาวพม่า ได้กระโดดหนีลงทะเล
แต่เนื่องจากคลื่นลมแรงทำให้ไม่สามารถว่ายน้ำหลบหนีได้ จึงโบกมือร้องขอความช่วยเหลือ ทหารจึงเข้าช่วยเหลือนำขึ้นเรือในเวลาต่อมา ก่อนจะนำเรือพร้อมบุคคลต่างด้าวชาวพม่าไปตรวจสอบที่จุดตรวจเกาะสะระณีย์ พบมีจำนวน 31 คน แยกเป็นชาย 24 คน ผู้หญิง 7 คน และ 2 ใน 27 รับเป็นผู้นำพาชาวพม่าทั้งหมดเข้าประเทศไทย และจากการตรวจสอบพบว่า ทั้งหมดไม่มีเอกสารการเดินทางเข้าประเทศแต่อย่างใด
จากการสอบสวน นายทอลา อายุ 30 ปี ผู้ช่วยคนขับเรือชาวพม่าให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขับเรือมากับเพื่อน ในราคา 8,000 บาท โดยรับชาวพม่าทั้งหมดมาจากจังหวัดเกาะสอง เพื่อไปส่งพื้นที่ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง จากนั้นจะมีคนไทยนำรถมารับเพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่นๆ เคยทำมาแล้วหลายครั้ง บางครั้งจะแล่นเรือเข้ามาในเวลากลางคืน แต่ช่วงนี้คลื่นลมแรงและกลัวเรือจมจึงแอบลักลอบเข้ามาในตอนกลางวันจนกระทั่งถูกทหารไทยจับกุมในที่สุด