ระนอง - จากหนุ่มใหญ่ที่เคยเลี้ยงกุ้งจนขาดทุนเมื่อ 10 กว่าปีก่อน พลิกผันตัวเองมาเลี้ยงปูนิ่ม แม้ว่าจะล้มลุกคลุกคลานมาหลายครั้ง จนสามารถเปิดห้องเย็นพร้อมเป็นตัวแทนในการรับซื้อปูนิ่มจากพี่น้องเกษตรกร นำส่งขายไปยังฮ่องกง และไต้หวัน และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ภัตตาคารร้านอาหารต่างๆ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และในอนาคตจะทำปูนิ่มให้เป็นธุรกิจแฟรนไชส์
นายเชาวลิต ธรรมสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เก้าดาวฟาร์ม ม.5 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง เล่าให้ฟังว่า เดิมเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ตนเองทำบ่อเลี้ยงกุ้ง แต่ต้องประสบปัญหาการขาดทุนอย่างต่อเนื่องด้วยปัจจัยหลายอย่าง จึงเลิกกิจการเลี้ยงกุ้งหันมาเลี้ยงปูนิ่มแทน ใช้เวลาอยู่หลายปีจนประสบความสำเร็จ ทุกวันนี้ สามารถสร้างฐานะ มีห้องเย็นขนาดใหญ่ รถห้องเย็นสำหรับขนส่ง โดยผู้ซื้อปูนิ่มจากพี่น้องเกษตรกรในจังหวัดระนอง เพื่อส่งขายให้แก่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ภัตตาคารร้านอาหารต่างๆ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการทำตลาดต่างประเทศเองส่งขายไปยังฮ่องกง และไต้หวัน ผลผลิตปูนิ่มในจังหวัดระนองนั้นมีปริมาณโดยเฉลี่ย 748 ตันต่อปี มูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท/ปี ซึ่งสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปูนิ่มในจังหวัดระนอง
นายเชาวลิต กล่าวว่า แม้จะมีรายได้ดีแต่ก็มีปัญหาอุปสรรคในการเลี้ยงพบว่า บางช่วงปูที่เลี้ยงตายโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ก็เป็นในระยะสั้นๆ ซึ่งเกษตรกรก็จะหยุดปล่อยปูลงบ่อเลี้ยงในช่วงนั้น ปัญหาเรื่องพันธุ์ลูกปูส่วนใหญ่นั้นนำเข้ามาจากประเทศพม่า จากการสังเกตพบว่า มีปริมาณและขนาดเล็กลงแต่ราคาสูงขึ้น และเริ่มจะมีการเลี้ยงปูนิ่มในประเทศพม่าเพิ่มมากขึ้น ในอนาคตอาจส่งผลกระทบถึงการเลี้ยงปูนิ่มในจังหวัดระนอง ดังนั้น การเพิ่มปริมาณปูอนุบาลในทะเล เช่น ธนาคารปู (โดยนำปูที่มีไข่มาเลี้ยง) เพื่อเพิ่มปริมาณปูในทะเล ให้มีปูทะเลที่จะนำมาทำเป็นปูนิ่มตลอดจนถึงการใช้เครื่องมือจับสัตว์น้ำที่ไม่ทำลายพันธุ์ปู การจับปูตามขนาด และวัยที่สมควร รวมถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมแหล่งที่อยู่อาศัยของปูอนุบาล ก็จะส่งผลให้มีพันธุ์ปูทะเล สำหรับนำมาเลี้ยงปูนิ่ม สามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปูนิ่มในจังหวัดระนองอย่างยั่งยืน
บริษัทเก้าดาวฟาร์ม ถือเป็นฟาร์มปูนิ่มที่นับได้ว่าเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ในจังหวัดระนอง มีการเลี้ยงปูนิ่มปริมาณที่มากถึง 150,000 ตะกร้า และรวบรวมรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรผู้เลี้ยงปูนิ่มรายย่อยวันต่อวัน ในราคากิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 250 บาท/กิโลกรัม โดยส่งขายให้แก่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ภัตตาคารร้านอาหารต่างๆ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการทำตลาดเองส่งขายไปยังต่างประเทศ เช่น จีน ฮ่องกง และไต้หวัน และขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงที่กำลังจะพัฒนาปูนิ่มให้เป็นธุรกิจแฟรนไชส์อีกด้วย