กระบี่ - แกนนำกลุ่มเกษตรกรไร้ที่ทำกินกระบี่ ร้องสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจังหวัดกระบี่ เอาผิด ผอ.สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ หลังปล่อยนายทุนรุกที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 2,000 ไร่ ตลอด 20 ปี โดยไม่ดำเนินคดี
เวลา 11.00 น. วันนี้ (29 ก.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จังหวัดกระบี่ นายชูวงศ์ มณีกุล ทนายความ และเป็นแกนนำกลุ่มเกษตรกรไร้ที่ดินทำกินจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยชาวบ้านได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนเอาผิดต่อ นายอำนาจ สร้อยเกียว ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ นายกฤษฎา สุตนพัฒน์ หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าปลายพระยา และผู้ดูแลสวนปาล์มน้ำมันของบริษัท ยูนิวานิช จำกัด มหาชน โดยมีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง พร้อมทั้งเอกสารต่างๆ
นายชูวงศ์ มณีกุล แกนนำกลุ่มเกษตรกรไร้ที่ดินทำกินจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องยื่นให้ทำการสอบสวนเอาผิดบุคคลทั้ง 4 โดยแยกเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ 2 นาย ซึ่งไม่ดำเนินคดีกรณีที่เอกชนผู้สัมปทานตั้งแต่ปี 2528 และหมดสัญญาเช่าในพื้นที่ป่าคลองพระยา ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2556 โดยปล่อยให้บุกรุกที่ดินในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองพระยา และไม่ได้ยึดคืนพื้นที่หลังจากหมดสัมปทานแล้ว รวมทั้งยังแจ้งความเอาผิดชาวบ้านที่เข้าไปเรียกร้องสิทธิในพื้นที่สวนปาล์ม ซึ่งชาวบ้านเรียกร้องตามมติ ครม.ปี 2546 ให้นำที่ดินหมดสัมปทานมาจัดสรร
ส่วนกรณีของเอกชนนั้น ให้เอาผิดโดยกลุ่มบุคคล หรือบริษัทบุกรุกที่ดินเกินเขตเช่าเข้าไปปลูกปาล์มในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และมีเจ้าหน้าที่รู้เห็น ซึ่งหลังจากนี้ก็จะรอว่าทาง ป.ป.ช.กระบี่ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
สำหรับพื้นที่สัมปทานของบริษัท ยูนิวานิช จำกัด (มหาชน) นั้น มีเนื้อที่จำนวน 20,000 ไร่ โดยเช่าตั้งแต่ปี 2528 และหมดสัญญาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ ปี 2553 ทางบริษัทฯ ได้ยื่นขอต่ออนุญาตต่อกรมป่าไม้เนื้อที่ 10,900 ไร่เศษ ส่วนพื้นที่ที่เหลือนั้นได้คืนให้แก่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำนวน 2,000 ไร่ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อการพัฒนาวิจัยปาล์ม แต่ทางผู้เกี่ยวข้องไม่ได้ดำเนินการให้ ขณะเดียวกัน หลังจากหมดสัญญาเช่าแล้ว ทางบริษัทฯ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช ให้ดำเนินคดีต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ไม่ดำเนินการพิจารณาต่อสัญญา และยื่นขอคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
ขณะเดียวกัน หลังหมดสัญญาแล้ว ชาวบ้าน 2 กลุ่มได้ออกมาเคลื่อนไหวโดยเข้ายึดพื้นที่สวน 2 จุด คือ ที่หมู่ 8 ต.ปลายพระยา เนื้อที่ 2,000 ไร่ และที่ ต.คีรีวง อ.ปลายพระยา ซึ่งล่าสุด ได้มีการสร้างที่พัก ส่วนเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความเอาผิดต่อชาวบ้านที่บุกรุกแล้วเช่นกัน
