สุราษฎร์ธานี - สถานการณ์ไข้เลือดออกยังคงน่าห่วง มีผู้ป่วยแล้ว 1,160 ราย ล่าสุด เด็กอายุ 12 ปี ตายเพิ่มอีก 1 รวมเป็น 2 พร้อมสั่งจับตาเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 3 อำเภอ ต้นเหตุเชื้อระบาดหนัก พร้อมวอนอย่านำเกมการเมืองมาเกี่ยวข้องกับงบประมาณการแก้ไขปัญหา
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (29 ก.ค.) ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี รักษาราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แถลงข่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกมียอดสะสมจากต้นเดือนมกราคม 2556 จนถึงวันที่ 27กรกฎาคม 2556 ว่า มียอดผู้ป่วยสะสมจำนวน 1,160 ราย มีผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มอีก 1 ราย เป็นเด็กอายุ 12 ปี ขณะนี้ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตรวมเป็น 2 ราย
โดยสถานการณ์ผู้ป่วยในระดับอำเภอมียอดสะสม ประกอบด้วย อำเภอกาญจนดิษฐ์ 206 ราย เมืองสุราษฎร์ฯ 173 ราย พุนพิน 142 ราย เกาะสมุย 138 ราย พระแสง 66 ราย ท่าชนะ 60 ราย บ้านนาสาร 58 ราย เวียงสระ 52 ราย ชัยบุรี 44 ราย บ้านนาเดิม 32 ราย เคียนซา 28 ราย ดอนสัก 26 ราย พนม 23 ราย คีรีรัฐนิคม 23 ราย ท่าฉาง 22 ราย เกาะพะงัน 21 ราย ไชยา 19 ราย บ้านตาขุน 17 ราย วิภาวดี 10 ราย
พร้อมสั่งเฝ้าระวังพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอเมือง และอำเภอพุนพิน พร้อมวอนขอให้ทาง อบจ.สุราษฎร์ธานี เร่งดำเนินการจัดซื้อเคมีภัณฑ์ ยากำจัดลูกน้ำยุงลาย และตัวแก่ของยุงลายโดยด่วน ตามการร้องขอสนับสนุนจากทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมาดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ประกอบกับขอให้นักการเมืองอย่าดึงงบประมาณ จำนวน 20 ล้านบาท ที่จะใช้ในการจัดซื้อเป็นเกมการเมือง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดในปีนี้ไม่ปกติ
นอกจากนั้น นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังได้กล่าวว่า ได้งบประมาณสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นจำนวน 20 ล้านบาท ก็เป็นประเด็นการเมืองเสียอีก เวลาเกิดสถานการณ์น้ำท่วมใช้งบ 5-600 ล้านบาทไม่เห็นมีปัญหา ซึ่งเกิดเรื่องแบบนี้ก็เป็นที่น่าเสียใจ สำหรับฝ่ายสาธารณสุขจังหวัดมีความเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของชาวบ้านที่เขาได้รับความเดือดร้อน ใครเป็นไข้เลือดออก แม้แต่หมอ หรือลูกหมอเป็นไข้เลือดออกก็เสี่ยงต่อการเสียชีวิต เพราะว่าขณะนี้ยังไม่มียารักษา ดังนั้น วิธีการป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นไข้เลือดออก การป้องกันโรคดังกล่าวเรามาเตะขัดขากันเองเป็นสิ่งที่น่าเสียใจ ถ้าพูดถึงสถานการณ์อย่างนี้ ผมคาดว่าอย่าเอาเรื่องความเป็นความตายการเจ็บไข้ได้ป่วยของพี่น้องประชาชนมาเป็นเกมการเมืองแล้วล่ะก็ขอให้เวรกรรมไปตกที่ลูกหลานของเขาก็แล้วกัน ขอสาปแช่ง
