xs
xsm
sm
md
lg

“พระแจ๊ส” บรรลุผลฝึกจิตภาวนาวิปัสสนากัมมัฏฐาน อยากให้ทุกวัด-พุทธศาสนิกชนได้ปฏิบัติ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พระมหาวิริโย ภิกขุ หรือ “พระแจ๊ส” ยอมรับการฝึกการเจริญจิตภาวนา และวิปัสสนากัมมัฏฐาน ช่วยให้ตัวเองเย็นลง มีสติอยู่กับตัวเองมากขึ้น ความประมาทน้อยลง ที่ผ่านมาเป็นคนใจร้อน การฝึกในครั้งนี้มีประโยชน์มากอยากให้ทุกวัดปฏิบัติอย่างนี้ ที่สำคัญเป็นวิชาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (28 ก.ค.) วันที่ 2 ของการอบรมพระนวกะภาคพรรษา ประจำปี 2556 ซึ่งคณะสงฆ์อำเภอเมืองสงขลา จัดขึ้นเพื่อให้พระนวกะได้เรียนรู้และเข้าใจในข้อวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ สำหรับวันนี้ เป็นการฝึกการเจริญจิตภาวนา และวิปัสสนากัมมัฏฐาน โดยพระครูสังฆรักษ์ผาด ฐิติโก รองเจ้าอาวาสวัดโคกนาว เป็นพระวิทยากรมาบรรยายถวายความรู้ถึงความสำคัญและประโยชน์ของการฝึกการเจริญจิตภาวนา และวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 
สำหรับการเจริญจิตภาวนา และวิปัสสนากัมมัฏฐาน ตามหลักศาสนาพุทธที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำไว้แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ 1.สมาธิภาวนาที่เป็นไปเพื่อความสุขในปัจจุบัน หรือเพื่อพักผ่อนจิต (ทิฏฐธรรมสุขวิหาร) 2.สมาธิภาวนาเพื่อการได้ญาณทัสสนะ คือ การได้ญาณวิเศษ เช่น มีหูทิพย์ ตาทิพย์ เป็นต้น ยังถือเป็นขั้นต้นเท่านั้น 3.สมาธิภาวนาเพื่อสติและสัมปชัญญะ คือ เพื่อให้มีสติรู้ตัวอยู่ตลอดว่าถูกต้องหรือไม่ ทำอะไรด้วยความรอบคอบ และยั้งคิด 4.สมาธิภาวนาเพื่อความสิ้นไปซึ่งอาสวะ นั่นก็คือ ดับกิเลสทั้งปวงได้หมด เพื่อบรรลุนิพพาน

 
ประโยชน์ของการฝึกสมาธิภาวนาที่เห็นได้ชัดเจนในระดับแรก คือ ทำให้จิตใจที่เคยว้าวุ่น กลับมาเป็นสงบเยือกเย็น คนที่เคยเอาแต่ใจตัวเองเป็นคนอารมณ์ร้อนฉุนเฉียวมาก่อน ก็ทำให้เป็นคนหนักแน่นมีเหตุผลมากขึ้น ไม่โกรธง่าย และรู้จักระงับอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีจิตใจงาม ยังผลให้สภาพจิตโดยทั่วไปมีแต่ความปลอดโปร่ง ผ่องใส และบ่งบอกได้จากใบหน้าที่อิ่มเอิบ หรือจะว่าแก่ช้าลงก็ไม่ว่า เพราะว่าการเผาผลาญพลังงานในร่างกายดำเนินไปด้วยความมีระเบียบและทำงานช้าลง นั่นก็คือ คนที่ฝึกสมาธิภาวนาจะมีผลพลอยได้ทำให้แลดูอ่อนกว่าวัย

 
พระมหาวิริโย ภิกขุ หรือพระแจ๊ส เปิดเผยว่า ได้ปฏิบัติจริงตรงตามหลักขององค์สมเด็จพระสัมสัมพุทธเจ้าที่ว่า ปฏิบัติกับหลักธรรมต้องเอามาปฏิเวชกันให้มาอยู่ด้วยกันให้ได้ในการดำเนินชีวิต พอได้ฝึกวิชาวิปัสสนากัมมัฏฐาน ทำให้ตัวเองเย็นลง มีสติอยู่กับตัวเองมากขึ้น ความประมาทก็น้อยลง ไม่ว่าจะมีอะไรมากระทบตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจก็ตาม มีสติกลับมาที่ตัวก่อน เมื่อก่อนจะเป็นคนอะไรมากระทบมีการตอบสนองไว

ตอนนี้เมื่อมีสิ่งที่เข้ามากระทบก็พักอยู่ที่เรา 10 วินาที 20 วินาที ได้ไตร่ตรองคิดก่อน คิดและพูดแล้วถ่ายทอดมันออกมา ทั้งพูด กาย วาจา ใจ การเดิน การนั่ง การนอน มีสติมากขึ้นมีประโยชน์มาก ที่สำคัญเป็นวิชาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อยากให้ทุกวัดปฏิบัติอย่างนี้ ให้พุทธศาสนาของเรา ทั้งภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ได้นำไปใช้ อาตมาก็นำไปบอกกล่าวไปแบ่งปันให้แก่ญาติโยมที่วัดเลียบที่ใฝ่ปฏิบัติธรรม จะได้รับทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ คือ สมบัติอันล้ำค่าขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะได้เกิดประโยชน์กับสันติสุข และความสุขแก่ประชาชนคนไทย และชาวโลก





 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น