xs
xsm
sm
md
lg

“นครศรีดี๊ดี” แคมเปญนี้ดี๊ดีสำหรับใคร??!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดย..นักข่าวชายขอบ

แคมเปญนครศรีดี๊ดี ถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2555 มาปีนี้ นครศรีดี๊ดี กำลังย่างก้าวเข้าสู่เฟสที่ 2 ไปแล้ว บนความชื่นชมของหลายฝ่ายบ้างว่า ส่งผลให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของนครศรีธรรมราช ขยายตัวได้ดี มีคนรู้จักนครศรีธรรมราชมากขึ้น โดยอาศัยทรัพยากรที่มากพร้อมบริบูรณ์อยู่ในทุกซอกหลืบของแผ่นดินนี้มาเป็นจุดขาย “นครศรีดี๊ดี” จึงพอสรุปความได้ว่า คำว่า “นครศรีดี๊ดี” เป็นกลยุทธ์ด้านการประชาสัมพันธ์เชิงการตลาด ที่มีเป้าหมายสำคัญ คือ การสร้าง “Branding” หรือภาพลักษณ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รู้จัก และจดจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะนครแห่งการท่องเที่ยว นครไม้ผล และนครหรอย นครแห่งการเรียนรู้ หรือนครแห่งการเกษตร นครแห่งการปศุสัตว์ หรือพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช กำลังก้าวสู่การเป็นมรดกโลก เป็นโอกาส หรือจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการเปิดบ้านเปิดเมือง สร้างโอกาสสำหรับการท่องเที่ยว แล้วแต่สารพัดจะเสกสรรทำให้นครศรีธรรมราช เป็นไปอย่างที่ต้องการ นัยว่าเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่ากันว่าอย่างนั้น

นั่งจับตามองโครงการ นครศรีดี๊ดี มาโดยตลอด นึกนิยมอยู่ว่าโครงการนี้เป็นความมหัศจรรย์ของทางการโดยแท้ แต่มาในปีนี้ความคิดเดิมเปลี่ยนไป กลับรู้โครงการนี้เป็นเช่นเดียวกับโครงการที่ทางราชการทำกันบนโต๊ะเช่นทั่วไป ส่วนใต้โต๊ะไม่เห็นจริงๆ คือ การทำโครงการ งบประมาณถูกใช้จ่าย นัยว่าโครงการผลสัมฤทธิ์ไม่ได้เห็นเป็นรูปธรรม แต่มันจะมาเป็นนามธรรมคือนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น นครศรีธรรมราชถูกรู้จักมากขึ้น มี “Branding” ที่เป็นอัตลักษณ์ของนครศรีธรรมราช

โครงการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ถือเป็นหน้าเป็นตาที่สุดของจังหวัด โดยมีรองผู้ว่าราชการฝ่ายยุทธศาสตร์เป็นหัวหอกในการดำเนินการ และสำนักงานการท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการนครศรีธรรมราช เป็นหัวเรือโต้โผในการจัดการด้วยไอเดียที่เลิศล้ำใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมาก สตง.หรือ ป.ป.ช.คงไม่ต้องมาตรวจสอบเงินที่ใช้จ่ายไป เพราะทุกบาททุกสตางค์นั้นเพื่อนครศรีธรรมราชอยู่แล้ว

เหล่านี้คือเจ้าบ้านที่จะต้องเป็นหลักในการเปิดบ้านต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองให้ก้าวเข้ามาสู่ “นครศรีดี๊ดี” หลายแคมเปญหลายครั้งที่ได้ไปแปะงานร่วมกับเอกชนจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างออกหน้าออกตา ทั้งที่ส่วนใหญ่เอกชนพยายามปลุกปล้ำขึ้นมาอย่างหน้าดำหน้าเขียว การท่องเที่ยวมีในหลายจุด เช่น สิชล ขนอม ล่าสุด ก็คงจะเป็นขนอมเฟสติวัล เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

พยายามไปค้นหาหลักของการเป็นเจ้าบ้านที่ดี หลักสำคัญนั้นพบว่า การให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว เปรียบเหมือนกับการให้บริการแก่ลูกค้า การที่จะทำให้นักท่องเที่ยวพึงพอใจ และอยากกลับมาเที่ยวอีกครั้งนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการต้อนรับที่ดี สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และการบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว ดังนั้น เจ้าบ้านผู้ทำหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจึงควรศึกษาเรื่องการต้อนรับให้เข้าใจ และมีความเต็มใจในการต้อนรับ เพื่อการเป็นเจ้าบ้านที่ดี การเป็นเจ้าบ้านที่ดีไม่เพียงแต่เป็นการประชาสัมพันธ์ชุมชน และธุรกิจของตนในแง่ดีเท่านั้น ยังเป็นการสร้างความประทับใจที่สามารถบอกเล่าจากปากต่อปาก ซึ่งเป็นวิธีการเผยแพร่ทางการตลาดที่ได้ผลที่สุดอีกด้วย

ที่สำคัญต้องปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม และเทียบกับความรู้สึก หรือความต้องการของตัวเราเองด้วย ซึ่งตัวเราก็ยังต้องการ “ความรู้สึกยินดีต้อนรับ” (Welcome) ด้วยไมตรีจิตต้องการให้มีคนสนใจ เห็นความสำคัญ ได้รับเกียรติจากคนอื่นๆ เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น ลักษณะการต้อนรับที่ดีที่ง่ายที่สุด คือ ให้รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรานั่นเอง นี่คือหลักสำคัญในการทำการท่องเที่ยว

 
การผลักดันนครศรีธรรมราชให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ใช่ว่าผู้หลักผู้ใหญ่ เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือสำนักงานท่องเที่ยวกีฬาหรือนันทนาการ ที่มีงบประมาณแผ่นดินมาใช้มาจ่าย จะทำได้เพียงคนกลุ่มเดียวเท่านั้น แท้จริงแล้วทุกฝ่ายสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะชาวนครศรีธรรมราชทุกคนต่างหาก นี่คือหลักใหญ่ที่จะต้องให้ความสำคัญมาเป็นลำดับต้นๆ

“เช่น งานขนอมเฟสติวัล ที่ผ่านมา ชาวนครศรีธรรมราชหลายคนคงจะได้เจอกับหลายเหตุการณ์ ที่ทำให้รู้สึกเป็นลบมากยิ่งขึ้น กับกิริยาอาการของเศรษฐีหนุ่มเจ้าของธุรกิจท่องเที่ยวในขนอมโต้โผจัดงานนี้ ที่แสดงออกถึงการดูถูกเหยียดหยามชาวนครศรีธรรมราชด้วยกัน ขณะที่ชาวนครศรีธรรมราชเหล่านั้นไปร่วมงานด้วยเจตนาอันดี เพื่อมีส่วนร่วมในการผลักดัน “นครศรีดี๊ดี” ให้เป็นที่รู้จักด้วยคำตอบที่ได้ออกมาจากเศรษฐีคนนี้คือ “ผมไม่ได้เชิญ” ด้วยน้ำเสียงที่เหยียดหยาม บางคนที่เข้าไปในงานแล้วแสดงสปิริต ซื้อหอยแมลงภู่ 4 ตัว 100 บาท ข้าวเกรียบถุงละ 80 บาท (ต้นทุนถุงละ 10 บาท) ข้าวไข่เจียวเทวดา 60 บาท อาหารราคาแพงแสนแพง คูปองคืนไม่ได้ ซื้อแล้วส่ายหัวกันทั่วหน้า บางคนถึงกับออกปากงานนี้ ไอ้นี่จัดอีกไม่มาอย่างเด็ดขาด”

“นี่เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งของกิจกรรม “นครศรีดี๊ดี” เท่านั้น คำถามจากคนที่ไปรู้ไปเห็น แต่ไม่ต้องการคำตอบ “นครศรีดี๊ดี” หากไม่เห็นคนในบ้านเป็นกำลังสำคัญแล้ว นครศรีจะดี๊ดีได้อย่างไร? หากเห็นคนในบ้านเป็นแค่ชนชั้นสอง จะดี๊ดีได้อย่างไร? หรือดี๊ดี เฉพาะมีงบประมาณ หรือดีดี๊ เพราะมีกลเม็ดเด็ดพรายในการใช้จ่ายเงินหลวงจะไม่บอกใครหรอก สัญญา!?!?!”
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น