ผบ.ทบ.ลงใต้ ติดตามการปฏิบัติงานของกำลังพล ย้ำเพิ่มมาตรการดูแลเป้าหมายที่อ่อนแอ

ยะลา - ผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุจะต้องมีการเพิ่มมาตรการดูแลเป้าหมายที่อ่อนแอ หลังยังเกิดเหตุต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจยะลา ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม และติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ปราการ ชลยุทธ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการ จ.ยะลา ผู้บังคับหน่วยถึงระดับหน่วยเฉพาะกิจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

โดย พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวต้อนรับ จากนั้น กอ.รมน.ภาค 4 สน. และหน่วยงานต่างๆ ได้บรรยายสรุปสถานการณ์ และแนวโน้มสถานการณ์ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากรับฟังบรรยายสรุปจากหน่วยงานในพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบนโยบาย และแนวทางการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมว่า ในการเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อมาตรวจเยี่ยมในส่วนของ กอ.รมน. และในนามของผู้บัญชาการทหารบก ที่สำคัญการคือ มาให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชา หน่วยที่ขึ้นตรง ยุทธการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลรอมฎอนซึ่งมีภารกิจมากขึ้น โดยการอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมที่สัญจรไปมาตามประเพณี ซึ่งเพิ่งจะผ่านมาเพียง 2 สัปดาห์ ก็ยังชี้วัดอะไรไม่ได้ จะต้องดูกันต่อไป

นอกจากนั้น ยังลงมาติดตามผลการปฏิบัติงานคณะทำงานขับเคลื่อนในพื้นที่ที่มาสนับสนุนการปฏิบัติงานในพื้นที่ ในช่วงที่ผ่านมา ก็ทำงานหนักกันพอสมควร ซึ่งจะมาดูกันว่าจะทำงานกันอย่างไรให้ดูไม่รุนแรง แต่ยังจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายที่เห็นได้ว่ายังมีเหตุการณ์ 2-3 เหตุการณ์ในการปะทะกับเจ้าหน้าที่ แต่ก็ขอเรียนให้ทราบว่า ทั้งหมดเป็นผู้ที่มีหมาย ป.วิ อาญาทั้งสิ้น และฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ไปไล่ล่าติดตามอะไร แต่เป็นการไปพบเจอตามการแจ้งของชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม ก็อยากให้ทุกคนที่หลงผิดที่อยากจะเห็นความสันติสุข ให้ออกมารายงานตัวพูดคุยกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ ไม่ใช้ความรุนแรงในการต่อรองกับเจ้าหน้าที่รัฐ ในส่วนอื่นๆ ก็ยังเปิดเวทีให้ทุกภาคส่วน ผู้ที่มีความคิดเห็นต่างให้ออกมา

“ในส่วน 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ก็คงจะต้องเพิ่มมาตรการดูแล ซึ่งจะต้องเพิ่มมาตรการในการดูแลเป้าหมายอ่อนแอ ที่จะเห็นได้ว่าถึงแม้จะมีการพูดคุยกัน ก็ยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ฝ่ายรัฐไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน เจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องปฏิบัติการตามกฎหมายไทย รัฐธรรมนูญไทยที่มีในปัจจุบัน การใช้ความรุนแรงก็จะต้องแยกกันให้ออก การบังคับใช้กฎหมายกับการใช้ความรุนแรงมันคนละเรื่องกัน เพราะฉะนั้น จะต้องไปพิสูจน์ทราบกันว่าใครเป็นคนใช้ความรุนแรง ถ้าเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐตนเองก็มีการกำหนดมาตรการเอาไว้แล้ว คือ ลงโทษสถานหนักอย่างร้ายแรง ซึ่งยังไม่พบในขณะนี้

แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้สังคมช่วยกัน วันนี้กำลังก้าวเดินไปข้างหน้า จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง มีความไม่เข้าใจกันบ้างก็ต้องอดทน การแก้ปัญหาภาคใต้ ถือเป็นงานใหญ่ของชาติ ที่ต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย พลเรือน ตำรวจ ทหาร และสื่อมวลชน ต้องระมัดระวังในการขยายความรุนแรงให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อการแก้ปัญหา ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็ทำงานทั้งเชิงรุกเชิงรับมาโดยตลอด มีแผนงานพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่วนการพูดคุยนั้นตนก็มองว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะต้องเดินหน้าต่อไป” ผบ.ทบ. กล่าว

โดยในช่วงบ่าย คณะของผู้บัญชาการทหารบก มีกำหนดเดินทางไปยังหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 13 ที่ ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา เพื่อรับฟังสรุปสถานการณ์การปฏิบัติงานของหน่วย และให้โอวาทกำลังพล