นราธิวาส - คนร้ายทำทีโบกรถถามทาง ก่อนชักปืนยิง 2 สามีภรรยาไทยพุทธ เสียชีวิตต่อหน้าลูกชายวัย 4 ขวบ บนถนนตากใบ-สุไหงโก-ลก ก่อนหนีคนร้ายได้เก็บปลอกกระสุนปืน และขโมยรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปด้วย จนท.เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
เมื่อเวลา 13.10 น. วันนี้ (23 ก.ค.) พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา ผกก.สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนสายตากใบ-สุไหงโก-ลก ช่วงบริเวณบ้านโคกมือบา ม.5 ต.โฆษิต จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.กระจ่าง รักษ์ณรงค์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบศพผู้เสียชีวิตเป็น 2 สามีภรรยา นอนจมกองเลือดอยู่บนถนน ทราบชื่อคือ นายช่วย เดิมหมวก อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/4 ถ.รักษ์ชนะอุทิศ ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนพก ขนาด 11 มม. ที่บริเวณศีรษะ และลำตัว ส่วน น.ส.ประภา สงวนพันธุ์ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นภรรยา มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนชนิด และขนาดเดียวกันที่บริเวณแผ่นหลัง และลำตัว โดยมีบุตรชายอายุ 4 ขวบ คือ ด.ช.ปีใหม่ เดิมหมวก นั่งร้องไห้อยู่ข้างศพอย่างเวทนา เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปอุ้มออกจากที่เกิดเหตุ และทำการปลอบโยนอยู่พักใหญ่
ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนของคนร้ายตกอยู่บนถนน จำนวน 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลตากใบ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบถาม ด.ช.ปีใหม่ บุตรชายผู้ตายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายช่วย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพัก โดยมีภรรยานั่งซ้อนท้าย และมีบุตรชายอายุ 4 ขวบนั่งกลาง เพื่อเดินทางไปทำหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ตที่ อ.ตากใบ ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะไล่ตามหลังมา แล้วคนร้ายได้เรียกให้ นายช่วย จอดรถจักรยานยนต์ทำทีสอบถามเส้นทาง เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืน ขนาด 11 มม. ออกมาจากเอวยิงใส่ 2 สามีภรรยา จำนวน 4 นัดซ้อน จนทั้งคู่เสียชีวิต แล้วรถได้ล้มคว่ำ
ส่วนบุตรชายได้รับบาดเจ็บจากเหตุรถล้ม แล้วคนร้ายที่ทำหน้าที่เป็นมือปืนลงจากท้ายรถจักรยานยนต์ก้มลงเก็บปลอกกระสุนปืนที่ใช้ยิง 2 สามีภรรยาที่ตกอยู่บนถนน ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ทะเบียน ขฉน 86 นราธิวาส ของผู้ตายหลบหนีไป โดยมุ่งหน้าไปทาง สภ.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดกั้นกัดเส้นทางหลบหนีของคนร้าย แต่ไม่สามารถตรวจสอบพบแต่อย่างใด โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
