ระนอง - หัวหน้าสถานีตำรวจ สภ.บางแก้ว นำกำลังบุกจับหนุ่มใหญ่บุกรุกครอบครองที่ดินของสถานีตำรวจ ปลูกต้นปาล์มเต็มพื้นที่กว่า 7 ไร่ นำตัวหนุ่มใหญ่สอบ พบหลักฐานทำสัญญาซื้อขายที่ดินแปลงดังกล่าวเมื่อปี 2552 กับภรรยาอดีตหัวหน้าสถานีตำรวจที่ดินโรงพัก สภ.บางแก้ว โดยมีสามีลงลายมือชื่อเป็นพยานในราคา 8 แสนบาท เตรียมขยายผลจับกุมตัวผู้เกี่ยวข้องเอาที่ดินราชพัสดุไปขาย
วันนี้ (17 ก.ค.) พ.ต.ต.นิพนธ์ สุขนิยม สว.สภ.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง เปิดเผยถึงการตรวจสอบที่ดินของสถานีตำรวจภูธรบางแก้ว ว่า ตั้งแต่มารับตำแหน่งที่ สภ.บางแก้ว เมื่อต้นปี 2556 สังเกตเห็นความผิดปกติในพื้นที่ของ สภ.บางแก้ว ว่า ที่บ้านพักไม่มีบริเวณบ้าน ไม่มีที่จอดรถ ตัวบ้านพักเกือบไปอยู่ในที่ดินของคนอื่น จึงได้ตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ระนอง ทราบว่า มีการนำพื้นที่ของ สภ.บางแก้ว จากเดิมที่มีประมาณ 22 ไร่เศษ ถูกนำไปแบ่งขายจำนวน 11 ไร่ โดยมีภรรยาของอดีตนายตำรวจหัวหน้า สภ.บางแก้ว เป็นผู้นำที่ดินไปขายให้แก่ชาวบ้าน จึงได้ทำเรื่องรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาภาค 8 ทราบ ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้มีหนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินการฟ้องร้อง และดำเนินคดีต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อขายที่ดินของ สภ.บางแก้ว
จากนั้นได้เรียกตัว นายศุภชัย ผิวขาว อายุ 43 อยู่บ้านเลขที่ 77/1 ม.1 ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินสวนปาล์มน้ำมัน มาสอบสวน จากการสอบสวนนายศุภชัย ได้ให้การยอมรับว่า ได้ซื้อที่ดินดังกล่าวมาเมื่อวันที่ 12 พ.ค.52 จำนวน 11 ไร่เศษ ในราคา 800,000 บาท จากภรรยาอดีตนายตำรวจหัวหน้าสถานี สภ.บางแก้ว โดยมีอดีตหัวหน้า สภ.บางแก้ว เป็นผู้เขียนหนังสือสัญญาในครั้งนั้น พร้อมทั้งมอบใบ ภ.บ.ท.11 และ ภ.ท.บ.5 ให้แก่ตนเองไว้เป็นหลักฐานในการซื้อขาย โดยไม่ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของกรมธนารักษ์ที่มอบให้ สภ.บางแก้ว
เบื้องต้น จึงแจ้งข้อหาแก่ นายศุภชัย ว่า ยึดถือครอบครองก่อสร้าง และทำการด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินราชพัสดุแปลงเลขที่ 205 ซึ่งอยู่ในความปกครองดูแลของ สภ.บางแก้ว อันเป็นที่ดินของรัฐที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ จากนั้นจะได้ดำเนินตัวนายศุภชัย ดำเนินคดีฟ้องศาลต่อไป ขณะที่ในส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องที่นำที่ดินของรัฐไปหลอกขายให้แก่ประชาชน ทางผู้บังคับบัญชาทางภาค 8 ได้มอบอำนาจพร้อมสั่งการให้ตนเร่งดำเนินการในการดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน และเด็ดขาด ทั้งผู้ที่มาหลอกขาย ที่ร่วมกันหลอกลวงนายศุภชัย และผู้ที่มีรายชื่อพยานมาทำการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายศุภชัย กล่าวว่า ตอนที่ซื้อที่ดินดังกล่าวตนไม่รู้ว่าเป็นที่ดินของรัฐ คนขายบอกว่าเป็นพื้นที่ว่างเปล่า อีกทั้งพยานก็เป็นคนที่น่าเชื่อถือ ตนจึงตกลงซื้อ ตอนนี้ก็มาถูกดำเนินคดี อยากจะขอเงินคืนจากผู้ที่มาหลอกขายแต่ไม่รู้ว่าจะได้คืนหรือไม่ คงต้องเสียเงินฟรีแถมโดนดำเนินคดีอีกต่างหาก
ขณะที่ นายเฉลิมพร จารุกิตติยุทธ นายช่างสำรวจอาวุโส สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ระนอง กล่าวว่า ที่ดินราชพัสดุ ของสภ.บางแก้ว เป็นแปลงเลขที่ 205 ที่ทั้งแปลงประมาณ 22 ไร่เศษ จากการรังวัดพบว่ามีราษฎรเข้ามาบุกรุกที่ดินราชพัสดุจริง โดยด้านทิศเหนือมีการบุกรุกมาตั้งแต่ลำห้วยซึ่งเป็นคลองสาธารณประโยชน์ จนไปจดกับบ้านพักของ สว.สภ.บางแก้ว
วันนี้ (17 ก.ค.) พ.ต.ต.นิพนธ์ สุขนิยม สว.สภ.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง เปิดเผยถึงการตรวจสอบที่ดินของสถานีตำรวจภูธรบางแก้ว ว่า ตั้งแต่มารับตำแหน่งที่ สภ.บางแก้ว เมื่อต้นปี 2556 สังเกตเห็นความผิดปกติในพื้นที่ของ สภ.บางแก้ว ว่า ที่บ้านพักไม่มีบริเวณบ้าน ไม่มีที่จอดรถ ตัวบ้านพักเกือบไปอยู่ในที่ดินของคนอื่น จึงได้ตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ระนอง ทราบว่า มีการนำพื้นที่ของ สภ.บางแก้ว จากเดิมที่มีประมาณ 22 ไร่เศษ ถูกนำไปแบ่งขายจำนวน 11 ไร่ โดยมีภรรยาของอดีตนายตำรวจหัวหน้า สภ.บางแก้ว เป็นผู้นำที่ดินไปขายให้แก่ชาวบ้าน จึงได้ทำเรื่องรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาภาค 8 ทราบ ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้มีหนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินการฟ้องร้อง และดำเนินคดีต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อขายที่ดินของ สภ.บางแก้ว
จากนั้นได้เรียกตัว นายศุภชัย ผิวขาว อายุ 43 อยู่บ้านเลขที่ 77/1 ม.1 ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินสวนปาล์มน้ำมัน มาสอบสวน จากการสอบสวนนายศุภชัย ได้ให้การยอมรับว่า ได้ซื้อที่ดินดังกล่าวมาเมื่อวันที่ 12 พ.ค.52 จำนวน 11 ไร่เศษ ในราคา 800,000 บาท จากภรรยาอดีตนายตำรวจหัวหน้าสถานี สภ.บางแก้ว โดยมีอดีตหัวหน้า สภ.บางแก้ว เป็นผู้เขียนหนังสือสัญญาในครั้งนั้น พร้อมทั้งมอบใบ ภ.บ.ท.11 และ ภ.ท.บ.5 ให้แก่ตนเองไว้เป็นหลักฐานในการซื้อขาย โดยไม่ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของกรมธนารักษ์ที่มอบให้ สภ.บางแก้ว
เบื้องต้น จึงแจ้งข้อหาแก่ นายศุภชัย ว่า ยึดถือครอบครองก่อสร้าง และทำการด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินราชพัสดุแปลงเลขที่ 205 ซึ่งอยู่ในความปกครองดูแลของ สภ.บางแก้ว อันเป็นที่ดินของรัฐที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ จากนั้นจะได้ดำเนินตัวนายศุภชัย ดำเนินคดีฟ้องศาลต่อไป ขณะที่ในส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องที่นำที่ดินของรัฐไปหลอกขายให้แก่ประชาชน ทางผู้บังคับบัญชาทางภาค 8 ได้มอบอำนาจพร้อมสั่งการให้ตนเร่งดำเนินการในการดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน และเด็ดขาด ทั้งผู้ที่มาหลอกขาย ที่ร่วมกันหลอกลวงนายศุภชัย และผู้ที่มีรายชื่อพยานมาทำการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายศุภชัย กล่าวว่า ตอนที่ซื้อที่ดินดังกล่าวตนไม่รู้ว่าเป็นที่ดินของรัฐ คนขายบอกว่าเป็นพื้นที่ว่างเปล่า อีกทั้งพยานก็เป็นคนที่น่าเชื่อถือ ตนจึงตกลงซื้อ ตอนนี้ก็มาถูกดำเนินคดี อยากจะขอเงินคืนจากผู้ที่มาหลอกขายแต่ไม่รู้ว่าจะได้คืนหรือไม่ คงต้องเสียเงินฟรีแถมโดนดำเนินคดีอีกต่างหาก
ขณะที่ นายเฉลิมพร จารุกิตติยุทธ นายช่างสำรวจอาวุโส สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ระนอง กล่าวว่า ที่ดินราชพัสดุ ของสภ.บางแก้ว เป็นแปลงเลขที่ 205 ที่ทั้งแปลงประมาณ 22 ไร่เศษ จากการรังวัดพบว่ามีราษฎรเข้ามาบุกรุกที่ดินราชพัสดุจริง โดยด้านทิศเหนือมีการบุกรุกมาตั้งแต่ลำห้วยซึ่งเป็นคลองสาธารณประโยชน์ จนไปจดกับบ้านพักของ สว.สภ.บางแก้ว
