ตรัง - เจ้าคณะจังหวัดตรัง ระบุพระไม่พูด 10 ปี และอาศัยอยู่ในอาศรมเพียงลำพัง สามารถกระทำได้หากปฏิบัติตนถูกต้องตามกิจวินัยของสงฆ์ ตรวจสอบแล้วไม่พบความเสียหายใดๆ แต่ต้องขึ้นตรงกับวัดในพื้นที่เพื่อเป็นพระที่ถูกต้องตามข้อบัญญัติ
จากกรณีที่ พระอุดม โชติวชิโร อายุ 50 ปี 21 พรรษา ซึ่งจำวัดอยู่ภายในอาศรมปรางทอง หมู่ที่ 3 บ้านห้วยโข่ง ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง อยู่เพียงลำพัง แต่มีนิสัยแปลกตรงที่ไม่ยอมพูดจากับญาติโยม ทั้งๆ ที่มิได้เป็นใบ้อย่างใด นับตั้งแต่เมื่อปี 2546 เป็นต้นมา หรือเป็นเวลาถึง 10 ปีแล้ว แต่จะใช้วิธีการเขียนโต้ตอบผ่านตัวหนังสือแทน ยกเว้นเวลาสวดมนต์เป็นภาษาบาลี ซึ่งท่านจะเปล่งเสียงพูดออกมาตามปกติ จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งจังหวัดตรัง และใกล้เคียง รวมทั้งในภาคอื่นๆ นั้น
วันนี้ (17 ก.ค.) พระราชวรากร เจ้าคณะจังหวัดตรัง และรองเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ (พระอารามหลวง) กล่าวว่า จากการติดตามข่าวยังไม่พบว่า พระอุดม ประพฤติตนเสียหายอย่างใด โดยสามารถไปจำวัดอยู่ในอาศรมส่วนตัวตามลำพังได้ เพียงแต่จะต้องปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามกิจวินัยของสงฆ์ และจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เหมาะสม เช่น การใบ้หวย ทำเสน่ห์
นอกจากนั้น อาศรมดังกล่าวจะต้องขึ้นตรงกับวัดใดวัดหนึ่งในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อท่านจะได้เป็นพระที่ถูกต้องตามข้อบัญญัติ ส่วนการที่ พระอุดม ไม่ยอมพูดจากับญาติโยม แต่จะใช้วิธีการสื่อสาร หรือสอนธรรมะด้วยการเขียนหนังสือแทนนั้น เจ้าคณะจังหวัดตรัง กล่าวว่า มิได้เป็นสิ่งต้องห้ามใดๆ ของสงฆ์ และสามารถดำเนินการได้ ถือเป็นสิทธิส่วนตัวของ พระอุดม เพราะมิได้สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้น ซึ่งทางคณะสงฆ์คงไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบอะไร เพียงแต่อาจเป็นเรื่องแปลกสำหรับผู้ที่พบเห็นเท่านั้น เนื่องจากท่านไม่ได้พิการหรือมีความผิดปกติใดๆ ทางร่างกาย และขนาดตนเองอุปสมบทมานานหลายสิบปีแล้ว ก็ยังไม่เคยเจอะเจอ