นครศรีธรรมราช - เกิดอุบัติเหตุเรือประมงพื้นบ้านอับปาง 5 ลำกลางอ่าวไทย ลอยคอรอดชีวิต 4 คน ยังสูญหายอีก 1 คน เนื่องจากคลื่นลมแรง กองทัพเรือบินค้นหาพร้อมเรือประมงเพื่อนบ้านยังไม่พบวี่แวว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (14 ก.ค.) ว่าที่ ร.ต.ฐิตวัฒน์ เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าอำนวยการในการค้นหานายสามารถ ปานรังสี อายุ 50 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน ต.หัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ที่เกิดอุบัติเหตุเรือประมงขนาดเล็กอับปางห่างจากชายฝั่งอำเภอหัวไทรประมาณ 5 ไมล์ทะเล ในขณะที่กำลังทำประมงไดหมึกตั้งแต่กลางดึกของวานนี้ โดยในเหตุการณ์เดียวกันนี้ มีเรือหางยาวขนาดเดียวกันอับปางพร้อมกัน 5 ลำ แต่ละลำมีชาวประมงอยู่ลำละคน โดยในจำนวนนี้ 4 คน สามารถเกาะทุ่นแกลลอนลอยคอกว่า 6 ชั่วโมง จนมีเรือมาพบช่วยชีวิตไว้ได้ ขณะที่นายสามารถ ยังคงสูญหาย
โดยในวันนี้ เรือตำรวจน้ำ เรือจากกรมเจ้าท่า และเฮลิคอปเตอร์จากกองเรือภาคที่ 2 รวมทั้งเรือประมงของเพื่อนบ้านอีกกว่า 20 ลำ ได้ค้นหาตลอดทั้งวัน แต่ต้องกลับเข้าฝั่งเป็นระยะๆ เนื่องจากมีลมกระโชกแรก คลื่นห่างจากชายฝั่งค่อนข้างรุนแรง ทำให้การค้นหายังไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนเฮลิคอปเตอร์ ต้องบินกลับฐานทัพเรือสงขลาก่อน เนื่องจากยังไม่สามารถกำหนดพิกัดที่ชัดเจนได้ และในวันพรุ่งนี้จะเริ่มต้นค้นหาใหม่อีกครั้ง ขณะที่เรือจากเพื่อนบ้านต่างพร้อมใจกันออกค้นหาในคืนนี้ด้วยวิธีการใช้อวนลากในช่วงกลางคืน
ขณะที่ นางสุฑาศินี คงทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/2 ม.7 ต.หัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ภรรยาของนายสามารถ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค. เวลาประมาณ 22.00 น.นายสามารถ ปานรังษี อายุ 50 ปี สามี นำเรือหางยาวออกไดหมึกบริเวณหน้าบ้านปากระวะ เขตรอยต่อ อ.หัวไทร กับ อ.ระโนด จ.สงขลา ห่างฝั่ง 5 กม. แล้วเกิดฝนตกหนัก โดยได้โทรศัพท์กลับมาที่ตนบอกว่าคลื่นแรงมาก ก่อนที่จะเงียบหายไปไม่สามารถติดต่อได้อีก จนทราบว่าเกิดเรือล่มพร้อมกับเพื่อนบ้านอีกรวมถึง 5 ลำ แต่โชคดีที่มีคนรอดชีวิตมาได้ถึง 4 คน ส่วนสามีนั้นยังสูญหาย