ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - งามไส้หนักตำรวจใหญ่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สั่งปิดข่าวแถมบังคับแก้บันทึกจับกุม กรณีชุดปราบปรามยาเสพติดจับ “ตำรวจอาสา” หรือฉายา “สารวัตรตี๋” ใช้รถร้อยเวรส่งยาบ้า หลังเป็นข่าวลือสนั่นมีคำสั่งย้าย “ร.ต.อ.ปรีชา พันดร” หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่
วันนี้ (11 ก.ค.) มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางใน อ.หาดใหญ่ เกี่ยวกับกรณีมีการจับกุมคดียาเสพติด โดยผู้ต้องหาใช้รถตำรวจของ สภ.หาดใหญ่ ไปส่งยาบ้า และถูกชุดปราบปรามยาเสพติดของ สภ.หาดใหญ่ ทำการจับกุมได้ ซึ่งเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวได้มีการพยายามปิดข่าว เนื่องจากมีคำสั่งลับจากนายตำรวจใหญ่ของ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สั่งปิดข่าวไว้
ผู้สื่อข่าวได้พยายามสืบหารายละเอียดจนทราบว่า เมื่อช่วงดึกของวันที่ 10 ก.ค.56 ร.ต.อ.ปรีชา พันดร หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด และทำการขยายผลโดยผู้ต้องหาอ้างว่า รับซื้อยาบ้ามาจากชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็น “สารวัตรตี๋” และทุกครั้งสารวัตรตี๋ จะขับรถตำรวจของ สภ.หาดใหญ่ นำของมาส่งให้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ให้ผู้ต้องหาล่อหลอกสั่งซื้อของจากคนที่ชื่อ “สารวัตรตี๋” ดังกล่าว
โดยนัดมอบของกันที่หน้าที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ ถนนเพชรเกษม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาได้มีการนัดหมาย ก็ได้มีรถตำรวจเป็นรถร้อยเวรสอบสวนของ สภ.หาดใหญ่ ขับเปิดไฟบนรถมายังที่จุดนัดหมาย ทางชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ ซึ่งมั่นใจว่าเป็นรถที่มาส่งยาบ้าแน่นอน จึงได้ขับรถเก๋งปาดหน้าแล้วขอทำการตรวจสอบ
ปรากฏพบว่า ผู้ขับรถตำรวจดังกล่าวคือ นายนพรุจ หรือตี๋ อุดมล้ำเลิศ อายุ 35 ปี เป็นตำรวจอาสา ช่วยขับรถร้อยเวรให้แก่ สภ.หาดใหญ่ จากการตรวจค้นรถพบยาบ้า จำนวน 260 เม็ด อยู่ในรถ จึงได้ควบคุมตัวส่ง ร.ต.ท.ณรงค์ นิลเดช พงส.สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดี และมีการสอบสวนเพื่อขยายผล ซึ่งต่อมาได้มีการยึดรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีดำ และรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน ไว้เพื่อทำการตรวจสอบ ซึ่งทางชุดจับกุมไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ แก่ผู้สื่อข่าว
จากการจับกุมดังกล่าว ปรากฏว่า ในขณะจับกุมชาวบ้านต่างเห็นการปฏิบัติหน้าที่เป็นจำนวนมาก และต่างตื่นตระหนกกันเพราะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากมีรถเก๋งธรรมดากล้าขับปาดหน้ารถตำรวจที่กำลังขับมา และเปิดไฟไซเรนบนหลังคารถด้วย และมีการกรูเข้าบังคับตรวจค้นรถตำรวจด้วย แต่วงตำรวจภายใน สภ.หาดใหญ่ มีการวิจารณ์กันว่า มีตำรวจใหญ่ใน สภ.หาดใหญ่ ผู้หนึ่งได้สั่งให้ปิดข่าว และมีการบังคับให้แก้บันทึกการจับกุมว่า จับยาบ้าได้ในรถเก๋งธรรมดาไม่ใช่ในรถตำรวจ เพราะเกรงว่าตนเองจะเสียชื่อ และโดนดำเนินคดีไปด้วย
ล่าสุด ในช่วงเย็นของวันที่ 11 ก.ค.56 ได้มีข่าวลือออกมาว่า มีการสั่งย้าย ร.ต.อ.ปรีชา พันดร หน.ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ ออกนอกพื้นที่ ซึ่งข่าวดังกล่าวยังไม่มีการยืนยันจากนายตำรวจใหญ่ใน จ.สงขลา เนื่องจากไม่สามารถติดต่อใครได้ แม้แต่ทาง ร.ต.อ.ปรีชา ก็ได้อ้างว่าติดการทำงานอยู่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้
วันนี้ (11 ก.ค.) มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางใน อ.หาดใหญ่ เกี่ยวกับกรณีมีการจับกุมคดียาเสพติด โดยผู้ต้องหาใช้รถตำรวจของ สภ.หาดใหญ่ ไปส่งยาบ้า และถูกชุดปราบปรามยาเสพติดของ สภ.หาดใหญ่ ทำการจับกุมได้ ซึ่งเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวได้มีการพยายามปิดข่าว เนื่องจากมีคำสั่งลับจากนายตำรวจใหญ่ของ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สั่งปิดข่าวไว้
ผู้สื่อข่าวได้พยายามสืบหารายละเอียดจนทราบว่า เมื่อช่วงดึกของวันที่ 10 ก.ค.56 ร.ต.อ.ปรีชา พันดร หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด และทำการขยายผลโดยผู้ต้องหาอ้างว่า รับซื้อยาบ้ามาจากชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็น “สารวัตรตี๋” และทุกครั้งสารวัตรตี๋ จะขับรถตำรวจของ สภ.หาดใหญ่ นำของมาส่งให้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ให้ผู้ต้องหาล่อหลอกสั่งซื้อของจากคนที่ชื่อ “สารวัตรตี๋” ดังกล่าว
โดยนัดมอบของกันที่หน้าที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ ถนนเพชรเกษม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาได้มีการนัดหมาย ก็ได้มีรถตำรวจเป็นรถร้อยเวรสอบสวนของ สภ.หาดใหญ่ ขับเปิดไฟบนรถมายังที่จุดนัดหมาย ทางชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ ซึ่งมั่นใจว่าเป็นรถที่มาส่งยาบ้าแน่นอน จึงได้ขับรถเก๋งปาดหน้าแล้วขอทำการตรวจสอบ
ปรากฏพบว่า ผู้ขับรถตำรวจดังกล่าวคือ นายนพรุจ หรือตี๋ อุดมล้ำเลิศ อายุ 35 ปี เป็นตำรวจอาสา ช่วยขับรถร้อยเวรให้แก่ สภ.หาดใหญ่ จากการตรวจค้นรถพบยาบ้า จำนวน 260 เม็ด อยู่ในรถ จึงได้ควบคุมตัวส่ง ร.ต.ท.ณรงค์ นิลเดช พงส.สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดี และมีการสอบสวนเพื่อขยายผล ซึ่งต่อมาได้มีการยึดรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีดำ และรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน ไว้เพื่อทำการตรวจสอบ ซึ่งทางชุดจับกุมไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ แก่ผู้สื่อข่าว
จากการจับกุมดังกล่าว ปรากฏว่า ในขณะจับกุมชาวบ้านต่างเห็นการปฏิบัติหน้าที่เป็นจำนวนมาก และต่างตื่นตระหนกกันเพราะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากมีรถเก๋งธรรมดากล้าขับปาดหน้ารถตำรวจที่กำลังขับมา และเปิดไฟไซเรนบนหลังคารถด้วย และมีการกรูเข้าบังคับตรวจค้นรถตำรวจด้วย แต่วงตำรวจภายใน สภ.หาดใหญ่ มีการวิจารณ์กันว่า มีตำรวจใหญ่ใน สภ.หาดใหญ่ ผู้หนึ่งได้สั่งให้ปิดข่าว และมีการบังคับให้แก้บันทึกการจับกุมว่า จับยาบ้าได้ในรถเก๋งธรรมดาไม่ใช่ในรถตำรวจ เพราะเกรงว่าตนเองจะเสียชื่อ และโดนดำเนินคดีไปด้วย
ล่าสุด ในช่วงเย็นของวันที่ 11 ก.ค.56 ได้มีข่าวลือออกมาว่า มีการสั่งย้าย ร.ต.อ.ปรีชา พันดร หน.ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ ออกนอกพื้นที่ ซึ่งข่าวดังกล่าวยังไม่มีการยืนยันจากนายตำรวจใหญ่ใน จ.สงขลา เนื่องจากไม่สามารถติดต่อใครได้ แม้แต่ทาง ร.ต.อ.ปรีชา ก็ได้อ้างว่าติดการทำงานอยู่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้