กระบี่ - ผู้แทนระดับสูงจากประเทศภาคีประชุมที่ จ.กระบี่ บันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่าย ว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาคพร้อมประชุมเชิงปฏิบัติการระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสเพื่อพัฒนาแผนปฏิบัติการอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และจัดทำแผนงานระดับภูมิภาค ของ UNODC ด้านยาเสพติด
วันนี้ (9 ก.ค.) ที่ห้องฮอร์นบิล แกรนด์ บอลรูม ชั้น 1 โรงแรมเมอร์เคียว กระบี่ ดีวานา จ.กระบี่ นายสุขุม โอภาสนิพัทธ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสเพื่อพัฒนาแผนปฏิบัติการอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และจัดทำแผนงานระดับภูมิภาคของ UNODC (UNODC Regional Programme) ด้านยาเสพติด โดยมีผู้แทนระดับสูงจากประเทศภาคีร่วมทำบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่ายว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค ซึ่งได้แก่ ประเทศกัมพูชา จีน ลาว เมียนมาร์ ไทย เวียดนาม UNODC สำนักงาน ป.ป.ส. และสำนักงานยาเสพติด และอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ the United Nations Office of Drugs and Crime UNODC จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2556
นายสุขุม โอภาสนิพัทธ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมที่เหมาะสมแก่เวลาที่ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงจำเป็นต้องระดมความต้องการ และความสนใจร่วมกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งการประชุมฯ นี้ ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศภาคีฯ จะได้มีโอกาสกำหนดทิศทางการจัดการกับปัญหายาเสพติดในภูมิภาคในเชิงลึกร่วมกัน โดยไม่ยึดติดกับกรอบการทำงานของแต่ละประเทศเหมือนที่ผ่านมา
สำหรับการร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อให้ทุกประเทศที่เกี่ยวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดแผนปฏิบัติงานในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ด้านการควบคุมยาเสพติดฉบับใหม่ให้มีความสมบูรณ์ สอดคล้องกับสภาพปัญหาในปัจจุบัน รวมถึงตรงกับความต้องการของอนุภูมิภาคมากขึ้น โดยประเทศที่ได้รับผลประทบโดยตรงจากยาเสพติดในระดับที่รุนแรง สามารถเป็นผู้กำหนดทิศทางการดำเนินงานได้ด้วยตนเอง และถือได้ว่าเป็นการหลอมรวมการทำงานด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศภาคให้เป็นหนึ่ง และขับเคลื่อนเป็นไปในทางเดียวกัน ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานนับจากนี้มีความสอดคล้องกับแผนงานและนโยบายในทุกระดับ ทั้งในระดับภูมิภาค ระดับอนุภูมิภาค และระดับประเทศ
รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า ผลมาจากมติที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส และระดับรัฐมนตรีภายในกรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่ายว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค ระหว่างวันที่ 5-10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ ประเทศพม่า ที่เห็นชอบให้ปรับแผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาค เพื่อการควบคุมยาเสพติด หรือ Sub-regional Action plan-SAP ฉบับปัจจุบัน ซึ่งเป็นฉบับที่ 8 แล้ว ให้ทันต่อเหตุการณ์ พร้อมทั้งจัดทำแผนฯ ฉบับที่ 9 เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมฯ ครั้งต่อไปในปี 2558
ในส่วนประเทศไทย คาดหวังว่าเมื่อการประชุมฯ เสร็จสิ้นลง ประเทศภาคีฯ จะได้ร่างแผนปฏิบัติการฯ ฉบับใหม่ที่สามารถชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของปัญหาที่ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ประเทศสมาชิกได้มีแนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพที่จำเป็น และการช่วยเหลือทางวิชาการที่ตรงกับความต้องการในภูมิภาคต่อไป