ตร.กระบี่ตอกย้ำปมฆ่าชิงทรัพย์ “พระประทีป” หลังเปิดตู้เซฟพบทรัพย์สินหายเกลี้ยง

กระบี่ - ผบก.กระบี่ นำกำลังลงตวจสอบตู้เซฟของ “พระประทีป” รองเจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือ พบทรัพย์สินหายเกลี้ยง คาดคนร้ายบังคับให้เปิดก่อนลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม พร้อมเผยเร็วๆ นี้จะจับคนร้ายได้

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (1 ก.ค.) พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุภายในกุฏิของ พระประทีป สมมรโต อายุ 52 ปี รองเจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือวิปัสนา ม.1 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ อีกครั้ง หลังถูกคนร้ายจับมัดมือมัดเท้าแล้วใช้ผ้าประคตรัดคอจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินภายในตู้เซฟของผู้ตาย เนื่องจากทางญาติ และเซียนพระเครื่องได้นำของมีค่ามาฝากไว้จำนวนมาก ก่อนที่พระประทีบ จะถูกคนร้ายฆาตกรรม แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีทรัพย์สินใดสูญหายไปบ้าง

โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการเปิดตู้เซฟของผู้ตายที่วางอยู่ข้างเตียงนอน เพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน ท่ามกลางญาติ และคนสนิทที่มีมายืนรออย่างใจจดใจจ่อ โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงยังไม่สามารถเปิดเซฟได้ เนื่องจากมีเพียงกุญแจแต่ไม่มีใครทราบรหัส ต้องติดต่อไปยังบริษัทตู้เซฟที่กรุงเทพ ฯ จึงสามารถเปิดเซฟออกได้ แต่ผลปรากฏว่า ภายในเซฟไม่มีทรัพย์สินใดๆ อยู่เลย สร้างความผิดหวังให้แก่ญาติๆ และคนสนิทเป็นอย่างมาก เนื่องจากมารอตั้งแต่ช่วงเช้า บางรายก็ได้นำโฉนดมาฝากไว้ด้วย

พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ กล่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า การลงพื้นที่อีกครั้งนี้เพื่อต้องการตรวจสอบว่า พระประทีป มีทรัพย์สินอะไรบ้างภายในตู้เซฟ เนื่องจากมีคนติดต่อมาจำนวนมากเพื่อต้องการพระเครื่อง และทรัพย์สินมีค่าคืนหลายราย แต่เมื่อเปิดเซฟแล้วไม่มีอะไร เชื่อว่าคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ด้วย โดยใช้วิธีการบังคับให้ผู้ตายให้เปิดเซฟก่อนฉกเอาทรัพย์สินไปจนหมด และเมื่อได้ทรัพย์ลงมือสังหารอย่างเหี้ยมโหด

นอกจากนี้ จากการสอบสวนคนสนิททราบว่า ภายในตู้เซฟของพระประทีปมีพระเครื่อง และของมีค่าอยู่จำนวนมาก มูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท และยังมีทรัพย์สินอื่นๆ ที่อยู่นอกตู้เซฟหายไปอีกหลายรายการ เช่น พระลังกาท่าเรือ หลวงปู่ทวด พระสมเด็จ เป็นต้น มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

ส่วนเรื่องคดีมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร และจากการประมวลเหตุการณ์ต่างๆ คนร้ายน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์อย่างชัดเจน แต่เป็นคนที่มีความรู้เรื่องพระเครื่องอย่างดีเพราะเลือกเฉพาะของมีค่า แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะนี้อยู่ระห่างสอบสวนติดตามตัวคนร้ายคาดว่า จะได้ตัวในเร็วๆ นี้ และจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวที่มีอยู่วัด เพื่อความชัดเจนว่า คนร้ายเข้ามาช่วงไหนเวลาใด และใช้พาหนะอะไร คาดว่าคงไม่นานก็จะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแน่นอน