xs
xsm
sm
md
lg

ตร.กระบี่ประชุมเครียดเหตุสังหารรองเจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือฯ มุ่งปมขัดแย้งพระเครื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กระบี่ - เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีฆ่ารัดคอรองเจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือวิปัสนา ยังมุ่งปมไปที่ความขัดแย้งวงการพระเครื่อง แต่พบประเด็นใหม่มีญาติยืมเงินผู้ตาย 5 ล้านบาทยังไม่คืน เร่งติดตามตัวมาสอบสวน

จากกรณีคนร้ายคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 3 คน บุกเข้าไปในกุฏิพระประทีป สมมรโต อายุ 52 ปี รองเจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือวิปัสนา ก่อนที่จะรุมมัดมือมัดเท้า และใช้ประคตรัดคอพระประทีป จนมรณะคากุฏิ เหตุเกิดภายในกุฏิผู้ตาย ที่วัดถ้ำเสือวิปัสนา ม.1 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.)

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (29 มิ.ย.) พ.ต.อ.ทักษิณ โภชากรณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี ประกอบด้วย พ.ต.ท.จงรักษ์ พิมพ์ทอง รอง ผกก.พ.ต.ท.ชัชวาล นิลจันทร์ สว.สส.สภ.เมืองกระบี่ พ.ต.ท.นพดล กล่อมพงศ์ พนักงานสอบสวน โดยในที่ประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด มีการประมวลเหตุการณ์เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานในการสืบสวนติดตามตัวคนร้าย และเตรียมนำภาพวงจรปิดภายในวัดมาตรวจสอบ รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาก่อนจะถูกฆาตกรรม แบ่งประเด็นสังหารออกเป็น 2 ประเด็นหลักๆ คือ ประเด็นขัดแย้งวงการพระเครื่อง และวัตถุมงคลต่างๆ ที่ผู้เสียชีวิตชอบสะสม ซึ่งมีมูลค่านับล้านบาท และยังเป็นตัวกลางในการรับฝากขาย ทั้งนี้ ได้มีเซียนพระทั้งในจังหวัดกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียงแวะเวียนมาหาไม่ขาดสาย

รวมทั้งประเด็นขัดแย้งเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ด้วย โดยพบว่าผู้ตายมีการปล่อยเงินให้แก่คนในวงการพระเครื่อง และญาติหลายราย วงเงินไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท แต่ยังไม่พบหลักฐานที่ชัดเจน

พ.ต.อ.ทักษิณ โภชากรณ์ ผกก.สภ.เมืองกระบี่ เปิดเผยภายหลังการประชุมทีมสืบสวนว่า ในส่วนของประเด็นสังหารนั้นทางเจ้าหน้าที่ยังคงให้น้ำหนักไปที่เรื่องความขัดแย้งในวงการพระเครื่อง เพราะผู้ตายจะเป็นตัวกลางในการซื้อขาย และรับจำนำพระเครื่อง เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนในวงการนี้ มีทั้งข้าราชการ นักธุรกิจ รวมทั้งนักการเมืองทั้งในจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียงแวะเวียนมาหาบ่อยครั้ง อาจจะมีความขัดแย้งกันจนนำมาสู่การสังหาร

ส่วนประเด็นปล่อยเงินกู้ก็ยังไม่ได้ตัดทิ้ง เพราะวงเงินจำนวนมากพอสมควร อาจะมีการวางแผนฆ่าล้างหนี้ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามญาติใกล้ชิดทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นพระที่มีทรัพย์สินมากคนหนึ่ง และมีญาติโยมหยิบยืมเงินบ่อยครั้ง ที่สำคัญก่อนเสียชีวิตมีญาติสนิทรายหนึ่งได้ยืมเงินไป จำนวน 5 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้คืนเงิน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนต่อไป

“สำหรับเบาะแสคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวน ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะภายในบริเวณในที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด มีเพียงวงจรปิดของวัดเท่านั้นซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุมาก จึงทำให้ยากแก่การตรวจสอบ แต่ในเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายมาด้วยกันประมาณ 3 คน ใช้รถเก๋งสีดำเป็นพาหนะ อยู่ระหว่างตรวจสอบรถต้องสงสัยอยู่ว่ารถคันดังกล่าวเป็นของบุคคลใด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้เกรงจะเสียรูปคดี” พ.ต.อ.ทักษิณ กล่าว
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น