ยะลา - เทศบาลตำบลปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา นำร่องกิจกรรมด้านศีลธรรมให้ชาวบ้านร่วมดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนทางศาสนา โดยทำกิจกรรม “อีงัตมาตี” หรือการรำลึกถึงความตาย พร้อมมอบที่อาบน้ำศพ ผ้าขาวห่อศพให้มัสยิดในพื้นที่
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่สำนักงานเทศบาลตำบลปะแต นายสมศักดิ์ ศรีสมบัติ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ได้นำชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสตรี แม่บ้าน และผู้นำศาสนา ประชาชน ผู้นำท้องถิ่น เข้าร่วมกิจกรรมที่มีชื่อว่า “อีงัตมาตี” หรือการรำลึกถึงความตาย โดยมีนายอับดุลฮายี สาแมง รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด
ทั้งนี้ คำว่า “อีงัตมาตี” ซึ่งเป็นภาษามลายูที่ชาวบ้านท้องถิ่นใช้พูดกัน แปลได้ความหมายตามคำว่า อีงัต หมายถึง การระลึกถึง มาตี หมายถึงความตาย โดยนายเกษม วาดู ประธานชมรมโต๊ะอิหม่ามตำบลปะแต ให้ข้อมูลว่า การรำลึกถึงความตาย หรือ “อีงัตมาตี” นั้นเป็นหลักคำสอนทางศาสนา ซึ่งเชื่อว่ามีอยู่ทุกศาสนาที่สอนให้ผู้นับถือได้ระลึกถึงความตายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในปัจจุบันโลกเราได้กลายเป็นโลกแห่งโลกาภิวัตน์ ทำให้มนุษย์เราหลงลืมในเรื่องของหลักคำสอนทางศาสนา แต่กลับไปหลงนิยมวัตถุ สิ่งของตามยุคสมัยเสียมากกว่า
ทางด้านนายสมศักดิ์ ศรีสมบัติ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลปะแต ผู้ริเริ่มจัดกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นการนำร่องกิจกรรมที่แรกในจังหวัดยะลา ได้เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรม “อีงัตมาตี” นี้ว่า อยากให้ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่นั้นนับถือศาสนาอิสลาม ได้มีจิตสำนึก และดำเนินตามหลักคำสอนของศาสนา โดยในพื้นที่ตำบลปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา นั้น เคยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรง และสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องตลอดมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนร้อยกว่าคน ส่งผลให้มีเด็กกำพร้าในพื้นที่มากถึง 399 คน
ซึ่งตนเองในฐานะของผู้นำท้องถิ่น ได้ตระหนักถึงความสำคัญของโครงการดังกล่าว และในช่วงที่ผ่านมา ก็ได้จัดทำโครงการหลายๆ อย่างที่เกี่ยวกับหลักคำสอนของศาสนา เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ ชาวบ้านได้คำนึง และปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลามอย่างถูกต้อง ซึ่งอย่างน้อยประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งการเข้ารับฟังการบรรยายคำสอนของหลักศาสนาเกี่ยวกับความตาย จะได้เกิดความกลัว อีกทั้งมีการกระทำความดีมากขึ้น เพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะถึงความตายที่ทุกคนล้วนต้องพบเจอ และหลีกหนีไม่ได้
โดยในกิจกรรมที่จัดขึ้นนั้น ได้มีการนำชาวบ้านที่เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งผู้หญิงจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำ และผู้ชายจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาว ร่วมกันฟังคำบรรยายเกี่ยวกับการเตรียมทำความดีเพื่อระลึกถึงความตาย และเตรียมความพร้อมที่จะตาย ซึ่งเป็นหลักคำสอนทางศาสนาที่ได้บัญญัติไว้ และเป็นการสืบทอดประเพณี วัฒนธรรม พิธีกรรมเกี่ยวกับการทำพิธีศพให้แก่ผู้ตาย โดยมีการมอบที่อาบน้ำศพ ที่แบกศพ ซึ่งเป็นอุปกรณ์เฉพาะของศาสนาอิสลาม เมื่อมีผู้เสียชีวิต หรือคนตาย จะมีการทำพิธีอาบน้ำศพ ที่แตกต่างจากศาสนาอื่นๆ และมีมอบผ้าห่อศพ ที่เป็นผ้าดิบสีขาวสำหรับห่อศพผู้ตาย ก่อนที่จะแบกศพไปยังมัสยิดเพื่อทำการละหมาดขอพรให้แก่ผู้ตายไปสู่สวรรค์
นายสมศักดิ์ ศรีสมบัติ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลปะแต กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับที่แบกศพ หรือที่อาบน้ำศพ และผ้าขาวห่อศพ ที่ทำการมอบให้แต่ละมัสยิดประจำหมู่บ้านนำไปสำรองไว้นั้น เป็นการร่วมบริจาคทุนทรัพย์ของประชาชน ซึ่งทางเทศบาลตำบลปะแต ได้รวบรวมและนำมาจัดทำที่อาบน้ำศพ พร้อมซื้อผ้าขาวห่อศพแจกจ่ายให้แก่มัสยิด จำนวน 9 แห่ง ในตำบลปะแต
