ตร.ชุมพรควานหาตัวคนร้ายขับ จยย.ชิงเงินเกือบล้าน แต่ยังไร้ร่องรอย

ชุมพร - ตำรวจชุมพร ร่วมภาค 8 ควานหาตัวคนร้ายขับ จยย.ตามประกบใช้เหล็กแป๊บตีหัวพนักงานร้านสะดวกซื้อชิงเกือบ 1 ล้านบาท แต่ยังมืดแปดด้านไร้ร่องรอยคนร้าย

จากเหตุการณ์ 2 คนร้ายใส่หมวกไหมพรม สวมทับด้วยหมวกกันน็อกเต็มใบ ขับรถจักรยานยนต์ตามประกบใช้เหล็กแป๊บตีหัวพนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ขณะกำลังขับรถจักรยานยนต์นำเงินไปเข้าบัญชีธนาคารจนบาดเจ็บสาหัส แล้วชิงเงินสดไปจำนวน 740,000 บาท หลบหนีไปอย่างลอยนวล โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณถนนซอยเทศบาล 24 (พีรพันธ์ดำริ) หมู่ 16 ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ของเมื่อวานที่ผ่านมานั้น

สำหรับความคืบหน้าวันนี้ (25 มิ.ย.) พ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร และ พ.ต.อ.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย รอง ผบก.จ.ชุมพร พร้อมชุดสายสืบตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร และตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ได้ลงพื้นที่เพื่อวางแนวทางในการติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้รวมกับ พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผกก.สภ.ท่าแซะ และ พ.ต.ท.ปัญญา ท้วมศรี รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อารมณ์ น้ำใจสุข สว.สส.

พ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.จว.ชุมพร กล่าวว่า ขั้นการสืบสวนได้จัดชุดการทำงานสืบสวนแบบปูพรม โดยจุดแรกตรวจสอบบริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ของบริษัท ฟ้าภิญโญปิโตรเลียม จำกัด ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่ตั้งอยู่บริเวณ เลขที่ 96 หมู่ 16 ถ.เพชรเกษม ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่ทางคนร้ายเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมพนักงานตั้งแต่นำเงิน จำนวน 7.4 แสนบาท ใส่กระเป๋าสะพายออกจากร้านสะดวกซื้อไปขึ้นรถจักรยานยนต์ แล้วเดินทางไปยังธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาท่าแซะ ที่อยู่ห่างจากร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อนำเงินเข้าบัญชี โดยขอภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัวภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. จำนวน 11 ตัว มารีเพลย์ดูเทปแบบวินานทีต่อวินาที เพื่อหาบุคคลต้องสงสัยว่ามีหรือไม่ และจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ บนถนนสายหลัก และสายรองที่มีการติดตั้งไว้

พ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ ผบก.จว.ชุมพร กล่าวต่อว่า ขั้นตอนที่สอง จัดชุดสอบปากคำพนักงานทุกคน พร้อมตรวจสอบประวัติย้อนหลังอย่างละเอียดไปถึงญาติใกล้ชิด และคู่อริของแต่ละคน โดยกรณีนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีเกลือเป็นหนอน คอยรายงานความเคลื่อนไหวของพนักงานที่กำลังจะนำเงินออกจากร้านไปให้แก่คนร้ายได้รู้ และเตรียมพร้อมที่จะบุกชิงเงินเกือบ 1 ล้านบาทดังกล่าว อย่างไรก็ตาม แม้แต่ทางพนักงานทั้ง 2 คนที่นำเงินไปเข้าบัญชีธนาคารเองก็ต้องสอบเค้นหนักกว่าทุกคนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหือไม่ ซึ่งทั้งหมดเป็นการตั้งข้อสมมติฐานในเบื้องต้นเพื่อนำไปสู่การสืบสวนหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี

ขณะที่การคลี่คลายคดี ได้กำชับให้ทาง พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผกก.สภ.ท่าแซะ รื้อแฟ้มตรวจสอบประวัติผู้ก่อคดีเก่าเพื่อหารูปพรรณ ยานพาหนะที่ใกล้เคียง พร้อมติดตามสัญญาณโทรศัพท์ของพนักงานที่ถูกคนร้ายนำพาไปด้วยว่าอยู่จุดไหน