ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้านรวมกลุ่มจัดแข่งขันตะกร้อวงโบราณ สืบสานวิถีชีวิตชาวบ้าน และสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน เน้นแนวบ้านๆ นำป้ายผู้สนับสนุนติดตามต้นไม้ แขวนลำโพงหอยโข่งแบบดั้งเดิมบนหลังคา
ชาวบ้านในพื้นที่บ้านม่วงค่าย หมู่ที่ 2 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รวมตัวกันจัดการแข่งขันตะกร้อวงแบบโบราณ เพื่อสืบสวนวิถีชีวิตชาวบ้าน และสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน โดยการแข่งขันใช้กติกาแบบง่ายๆ แต่ละทีมมี 8 คน ยืนล้อมรอบเส้นวงกลม ทีมไหนสามารถเตะตะกร้อตกน้อยที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ และสามารถออกลีลาท่าทางได้ตามความถนัดของแต่ละคน ซึ่งมีทีมตะกร้อทั้งหมู่บ้านม่วงค่าย และหมู่บ้านใกล้เคียง ส่งทีมตะกร้อเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 8 ทีม ส่วนผู้เล่นก็ไม่จำกัดอายุ มีตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และไล่ลงมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานที่รวมอยู่ในทีมเดียวกัน เน้นความฮา และความสามัคคีโดยใช้เวลาว่างในช่วงเย็นๆ ของทุกวันจัดการแข่งขัน
ขณะที่บรรยากาศภายในสนามซึ่งใช้ลานบ้านภายในชุมชนเป็นสนามแข่งขัน ก็จำลองเหมือนกับแข่งขันกีฬาระดับอินเตอร์ แต่ออกแนวบ้านๆ มีกรรมการจดแต้ม มีป้ายสปอนเซอร์ หรือผู้สนับสนับสนุนที่ทำจากพลาสติกแต่นำไปติดตามต้นไม้ เช่น ต้นกล้วย และต้นมะพร้าว ที่กำลังออกผล และมีผู้บรรยายกีฬาพร้อมสรรพ แต่ลำโพงจะเป็นลำโพงรุ่นเก่า หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าลำโพงหอยโข่ง ติดไว้บนหลังคาบ้าน ส่วนชื่อทีมก็แล้วแต่จะตั้งตามสภาพของผู้เล่น เช่น ขิงแก่
ส่วนกองเชียร์ก็จะเป็นชาวบ้าน หรือไม่ก็ลูกเมียที่มาคอยให้กำลังใจอยู่ติดขอบสนาม และมีการหยอกล้อผู้เข้าแข่งขันกันตามประสาชาวบ้าน ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเสียงหัวเราะ และการแข่งขันที่เป็นไปอย่างสนุกสนาน และอบอุ่นตามวิถีชีวิตของชาวบ้านในชนบท
ชาวบ้านในพื้นที่บ้านม่วงค่าย หมู่ที่ 2 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รวมตัวกันจัดการแข่งขันตะกร้อวงแบบโบราณ เพื่อสืบสวนวิถีชีวิตชาวบ้าน และสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน โดยการแข่งขันใช้กติกาแบบง่ายๆ แต่ละทีมมี 8 คน ยืนล้อมรอบเส้นวงกลม ทีมไหนสามารถเตะตะกร้อตกน้อยที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ และสามารถออกลีลาท่าทางได้ตามความถนัดของแต่ละคน ซึ่งมีทีมตะกร้อทั้งหมู่บ้านม่วงค่าย และหมู่บ้านใกล้เคียง ส่งทีมตะกร้อเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 8 ทีม ส่วนผู้เล่นก็ไม่จำกัดอายุ มีตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และไล่ลงมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานที่รวมอยู่ในทีมเดียวกัน เน้นความฮา และความสามัคคีโดยใช้เวลาว่างในช่วงเย็นๆ ของทุกวันจัดการแข่งขัน
ขณะที่บรรยากาศภายในสนามซึ่งใช้ลานบ้านภายในชุมชนเป็นสนามแข่งขัน ก็จำลองเหมือนกับแข่งขันกีฬาระดับอินเตอร์ แต่ออกแนวบ้านๆ มีกรรมการจดแต้ม มีป้ายสปอนเซอร์ หรือผู้สนับสนับสนุนที่ทำจากพลาสติกแต่นำไปติดตามต้นไม้ เช่น ต้นกล้วย และต้นมะพร้าว ที่กำลังออกผล และมีผู้บรรยายกีฬาพร้อมสรรพ แต่ลำโพงจะเป็นลำโพงรุ่นเก่า หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าลำโพงหอยโข่ง ติดไว้บนหลังคาบ้าน ส่วนชื่อทีมก็แล้วแต่จะตั้งตามสภาพของผู้เล่น เช่น ขิงแก่
ส่วนกองเชียร์ก็จะเป็นชาวบ้าน หรือไม่ก็ลูกเมียที่มาคอยให้กำลังใจอยู่ติดขอบสนาม และมีการหยอกล้อผู้เข้าแข่งขันกันตามประสาชาวบ้าน ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเสียงหัวเราะ และการแข่งขันที่เป็นไปอย่างสนุกสนาน และอบอุ่นตามวิถีชีวิตของชาวบ้านในชนบท