xs
xsm
sm
md
lg

สองคนร้ายประกบ จยย.ใช้เหล็กแป๊บตีหัวสาวเซเว่นฯ ชิงเงินสดเกือบล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชุมพร - สองคนร้ายประกบรถจักรยานยนต์ใช้เหล็กแป๊บตีหัวชิงเงินสดเกือบล้านบาท จากพนักงานสาวเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาในปั๊ม ปตท.ที่ท่าแซะ ขณะนำเงินที่ขายของได้ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และเช้าวันจันทร์ ไปฝากธนาคาร หลบหนีลอยนวล

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (24 มิ.ย.) ร.ต.อ.สุขสันต์ ยิ้มแย้ม พนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกาย และชิงทรัพย์มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยคนร้ายชิงเงินสดไปด้วยเกือบ 1 ล้านบาท เหตุเกิดบริเวณถนนซอยเทศบาล 24 (พีรพันธ์ดำริ) หมู่ 16 ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผกก.สภ.ท่าแซะ พ.ต.ท.ปัญญา ท้วมศรี รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อารมณ์ น้ำใจสุข สว.สส. พร้อมกำลังไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนซอยห่างจากถนนเพชรเกษมประมาณ 100 เมตร พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ล้มคะแคงอยู่ สภาพไฟท้ายแตก มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลท่าแซะ เจ้าหน้าที่ตามไปสอบสวน ทราบชื่อ น.ส.วิไลวรรณ ผึ้งสังข์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 14 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ เป็นคนขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว บาดเจ็บที่แขนขา และตามร่างกายมีแผลถลอกหลายแห่ง และ น.ส.ทิพย์วรรณ เนตรสุวรรณ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 372 หมู่ 6 ต.สลุย อ.ท่าแซะ มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่กลางศีรษะอาการสาหัสแพทย์ต้องเย็บถึง 14 เข็ม แพทย์รักษาอาการจนปลอดภัยแล้ว

จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.วิไลวรรณ ผึ้งสังข์ ได้ขับรถจักรยานยนต์ โดยมี น.ส.ทิพย์วรรณ เนตรสุวรรณ ที่บาดเจ็บสาหัสนั่งซ้อนท้าย โดยทั้ง 2 คนเป็นพนักงานของร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ตั้งอยู่ภายในปั๊ม ปตท.ของบริษัท ฟ้าภิญโญปิโตรเลียม จำกัด เลขที่ 96 หมู่ 16 ถ.เพชรเกษม ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ก่อนเกิดเหตุ น.ส.วิไลวรรณ ได้ขับรถจักรยานยนต์พา น.ส.ทิพย์วรรณ นั่งซ้อนท้ายโดยสะพายกระเป๋าสีชมพูภายในมีเงินสดอยู่จำนวน 740,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ขายสินค้าภายในร้านสะดวกซื้อตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมา และเงินที่ขายได้ในช่วงเช้าของวันจันทร์ส่วนหนึ่งด้วย เพื่อนำไปฝากเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาท่าแซะ ที่ห่างจากร้านสะดวกซื้อราว 1 กม.

ขณะที่ น.ส.วิไลวรรณได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากร้านเซเว่นอีเวฟเว่น โดยขับย้อนศรมาตามไหล่ทางบนถนนเพชรเกษมชองทางขาขึ้น เพื่อที่จะไปเลี้ยวบริเวณเข้าทางลัดเข้าถนนซอยเทศบาล 24 เมื่อขับมาถึงปากทางเลี้ยวเข้าถนนซอยดังกล่าว ได้เห็นสังเกตเห็นรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเทา สภาพเก่าจอดอยู่ โดยมีชายอายุ 2 คน อายุประมาณ 20-25 ปี สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำจอดรถจักรยานยนต์ยืนคุยกันอยู่ พอ น.ส.วิไลวรรณ ขับรถจักรยานยนต์ผ่านมา ชายทั้ง 2 คนได้ดึงหมวกไหมพรมลงมาปิดหน้าแล้วสวมทับด้วยหมวกกันน็อกเต็มใบ โดยคนขับใส่หมวกกันน็อกสีชมพู ส่วนคนนั่งซ้อนท้ายใส่หมวกกันน็อกสีดำ ขับไล่ตามหลังตนมาแต่ไม่ได้เอะใจคิดว่าเป็นพวกหมวกกันน็อกที่ปล่อยเงินกู้ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุห่างจากปากซอยได้ราว 100 เมตร คนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์ประกบแล้วคนนั่งซ้อนท้ายได้ใช้เหล็กแป๊บยาวเกือบเมตรอันใหญ่เท่าแขนฟาดลงกลางศีรษะของ น.ส.ทิพย์วรรณ ที่นั่งซ้อนท้าย และสะพายกระเป๋าใส่เงินอยู่ จนรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มลงบนถนน

เมื่อรถจักรยานยนต์ล้มลง น.ส.วิไลวรรณ คนขับตั้งสติได้จึงลุกขึ้นวิ่งหนีสุดชีวิต ส่วน.น.ส.ทิพย์วรรณ ที่ถูกตีกลางศีรษะล้มฟุบลงกองกับพื้นแต่ไม่หมดสติอยู่ในอาการสะลึมสะลือ พยายามกระเสือกกระสนจะวิ่งหนี จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้กระโดดลงมาจากท้ายรถจักรยานยนต์วิ่งเข้าไปกระชากเอากระเป๋าสะพายใส่เงินจำนวน 740,000 บาท และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นกาแล็กซีแกรนด์ ที่อยู่ในกระเป๋าดังกล่าว วิ่งไปขึ้นท้ายรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนจอดรออยู่ แล้วขับหลบหนีไปทางถนนเพชรเกษม ตำรวจจึงได้วิทยุสกัดจับตามจุดต่างๆ แต่ไร้วี่แวว

สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เบื้องต้นตำรวจสันนิฐานว่า คนร้ายน่าจะติดตาม และรู้ความเคลื่อนไหวการทำงานภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นอย่างดี เนื่องจากรู้ว่ามีเงินที่ขายได้ช่วงวันหยุดจำนวนมาก และรู้เส้นทาง และเวลาที่พนักงานจะต้องนำเงินไปเขาบัญชีธนาคารในช่วงดังกล่าว จึงติดตามความเคลื่อนไหม และได้ไปดังรออยู่บริเวณปากซอยจุดเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ประมาณ 500 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอประวัติพนักงานของร้านทุกคนเพื่อไปตรวจสอบประวัติ และตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 
 


กำลังโหลดความคิดเห็น