นราธิวาส - ชาวระแงะรณรงค์ให้ผู้หลงผิดกลับบ้าน ด้านผู้นำศาสนาหนุนหยุดก่อเหตุความไม่สงบในเดือนรอมฎอน เห็นด้วยต่อข้อเจรจารัฐบาลรัฐไทยกับ BRN
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (22 มิ.ย.) บริเวณ ถ.หน้าวงเวียนลองกอง ทศ. ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นายมาหาหมัดคาริก ปาทาน ปธ. สภาสันติสุข อ.ระแงะ เป็นแกนนำผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ตัวแทนชาวบ้านทั้งไทยพุทธ และมุสลิมที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 7 ตำบล ของ อ.ระแงะ จำนวนกว่า 500 คน ได้ร่วมกับนายสมหวัง เรืองเพ็ง นายอำเภอระแงะ พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 และ พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง ผกก.สภ.ระแงะ จัดขึ้น เพื่อต่อต้านความรุนแรง พร้อมทั้งเดินรณรงค์ประกาศเจตนารมณ์ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคนนอกศาสนา รวมทั้งประกาศให้ผู้หลงผิดกลับมามอบตัวตามโครงการพาคนกลับบ้านของกองทัพภาค 4
โดยพื้นที่ อ.ระแงะ มีกลุ่มผู้หลงผิดซึ่งมีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 50 คน และตกเป็นผู้ต้องสงสัยตามหมาย พ.ร.ก. จำนวน 25 คน รวมทั้งสิ้น 75 คน และได้แสดงตัวเพื่อวางอาวุธแล้ว 28 คน เหลืออีก 47 คน อยู่ระหว่างประสานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อวางอาวุธตามนโยบายของ พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาค 4 ในการช่วยเหลือผู้หลงผิดดังกล่าวกลับบ้านเกิด เพื่อหันมาร่วมกันพัฒนาชาติไทย
กิจกรรมในครั้งนี้ นายมาหาหมัดคาริก ประธานสภาสันติสุข อ.ระแงะ กล่าวต่อผู้ที่เดินทางมาร่วมเดินรณรงค์แสดงพลังต่อต้านความรุนแรงว่า เราโชคดีที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นบิดา มีสมเด็จพระราชินี เป็นมารดา และมีประเทศไทยเป็นประเทศเดียว เราจะมาแบ่งแยกดินแดนกันทำไม ศาสนาอิสลามบัญญัติไว้ว่า คนมุสลิมฆ่ามุสลิมด้วยกัน หรือฆ่าคนนับถือศาสนาอื่นๆ ก็ตกนรกทั้งนั้น ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องเป็นพลเมืองดีหันมาทำสิ่งดีๆ ให้แก่พ่อและแม่ของประเทศได้ชื่นใจ ดีใจกับชาวระแงะทุกคนที่มีใจเดียวกันให้อภัยแก่คนที่หลงผิด ที่มีความประสงค์จะกลับบ้านเกิดเพื่อมาพัฒนาพื้นที่ให้มีความสงบเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา ตนขอสนับสนุนข้อตกลง ตัวแทนรัฐบาลไทย กับ BRN ที่มีการพูดคุยในเรื่องสันติภาพที่ประเทศมาเลเซียที่ผ่านมา และมีข้อตกลงหยุดยิง และหยุดความรุนแรงในช่วงเดือนเดือนรอมฎอน
ซึ่งถือเป็นเดือนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม เพราะศาสนาอิสลาม ถือเป็นเดือนแห่งความเมตตา และให้อภัยต่อเพื่อนมนุษย์ทุกชาติพันธุ์ และทุกศาสนา ฉะนั้นผู้นับถือศาสนาอิสลามจริงจะไม่มีวันเกิดเหตุร้ายอย่างเด็ดขาด ถ้ามีคนก่อเหตุถือเป็นผู้เบี่ยงเบนศาสนา และพวกนอกศาสนาแน่นอน ด้านนางแอเสาะ ซีตี อายุ 35 ปี ชาวบ้าน อ.ระแงะ กล่าวว่า การเดินรณรงค์ครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องดี เป็นการแสดงความร่วมมือต้องการสันติภาพ สืบเนื่องจาก 3 จ.ชายแดนภาคใต้ บอบช้ำมากเกินไป ตั้งแต่เกิดเหตุความไม่สงบมีคนตายหลายพันคน บาดเจ็บตายทุกวันใครจะรับได้ จึงอยากขอให้ผู้หลงผิดหยุดการกระทำ กลับเนื้อกลับใจ เข้ากระบวนการ เข้ารายงานตัว หรือมอบตัวตามโครงการกองทัพภาคที่ 4 พาคนกลับบ้าน ร่วมพัฒนาชาติไทย ตนเชื่อว่า ทุกคนพร้อมจะให้อภัย เพราะทุกคนต้องการสันติสุข