ชุมพร-หนุ่มชาวสวนทุเรียนที่ชุมพรดวงซวย พายุฝนกระหน่ำต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับดับอนาถ ขณะเข้าไปดูผลผลิตซึ่งกำลังจะตัดขาย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (18 มิ.ย.) พ.ต.ท.เฉลิมพร แฝงจันทน์ พนักงานสอบสวน สภ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุต้นไม้ใหญ่ล้มทับผู้เสียชีวิตที่บริเวณเชิงเขาหมู่ที่ 5 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร จึงพร้อมด้วย นายยงยุทธ ทวิชศรี กำนันตำบลพระรักษ์ หน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสวนทุเรียนอยู่ใกล้ “ลำห้วยซอ” ติดกับเชิงเขาป่าพระรักษ์ พบต้นไม้ใหญ่ขนาดหนึ่งคนโอบสูงกว่า 5 เมตร โค่นล้มลงมาทับร่างของ นายสมร ปินะเล อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/2 หมู่ที่ 5 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร
เจ้าหน้าที่ และหน่วยกู้ภัยต้องใช้เลื่อยยนต์ตัดกิ่ง และต้นไม้ออกเป็นท่อนแล้วช่วยกันดึงเอาร่างออกมาอย่างทุลักทุเล จากการชันสูตรพลิกศพพบกระดูกซี่โครง กระดูกสันหลังหักทั้งหมด และกระดูกหักแทงเข้าที่หัวใจ ปอด และภายในร่างกายอีกหลายจุดทำให้เสียชีวิตคาที่
จากการสอบสวนทราบว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมร ผู้ตายพร้อมด้วยญาติๆ ได้ขึ้นไปดูแลสวนทุเรียนในพื้นที่ดังกล่าวที่กำลังออกผลใกล้ตัดขายได้แล้ว ซึ่งขณะนั้นได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ลมพัดกระโชกอย่างรุนแรงทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านเรียกว่า “ต้นจิ๊ก” ซึ่งอยู่ติดกับรอยต่อระหว่างสวนทุเรียนของนายสมร กับป่าใกล้เชิงเขา ได้เกิดล้มครืนลงมาทับร่างของนายสมร ที่กำลังจะวิ่งหนีแต่ไม่พ้นจนเสียชีวิตคาที่
สำหรับนายสมร เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว “ปินะเล” ที่กำลังเตรียมตัวบวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่มาเสียชีวิตเสียก่อน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (18 มิ.ย.) พ.ต.ท.เฉลิมพร แฝงจันทน์ พนักงานสอบสวน สภ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุต้นไม้ใหญ่ล้มทับผู้เสียชีวิตที่บริเวณเชิงเขาหมู่ที่ 5 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร จึงพร้อมด้วย นายยงยุทธ ทวิชศรี กำนันตำบลพระรักษ์ หน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสวนทุเรียนอยู่ใกล้ “ลำห้วยซอ” ติดกับเชิงเขาป่าพระรักษ์ พบต้นไม้ใหญ่ขนาดหนึ่งคนโอบสูงกว่า 5 เมตร โค่นล้มลงมาทับร่างของ นายสมร ปินะเล อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/2 หมู่ที่ 5 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร
เจ้าหน้าที่ และหน่วยกู้ภัยต้องใช้เลื่อยยนต์ตัดกิ่ง และต้นไม้ออกเป็นท่อนแล้วช่วยกันดึงเอาร่างออกมาอย่างทุลักทุเล จากการชันสูตรพลิกศพพบกระดูกซี่โครง กระดูกสันหลังหักทั้งหมด และกระดูกหักแทงเข้าที่หัวใจ ปอด และภายในร่างกายอีกหลายจุดทำให้เสียชีวิตคาที่
จากการสอบสวนทราบว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมร ผู้ตายพร้อมด้วยญาติๆ ได้ขึ้นไปดูแลสวนทุเรียนในพื้นที่ดังกล่าวที่กำลังออกผลใกล้ตัดขายได้แล้ว ซึ่งขณะนั้นได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ลมพัดกระโชกอย่างรุนแรงทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านเรียกว่า “ต้นจิ๊ก” ซึ่งอยู่ติดกับรอยต่อระหว่างสวนทุเรียนของนายสมร กับป่าใกล้เชิงเขา ได้เกิดล้มครืนลงมาทับร่างของนายสมร ที่กำลังจะวิ่งหนีแต่ไม่พ้นจนเสียชีวิตคาที่
สำหรับนายสมร เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว “ปินะเล” ที่กำลังเตรียมตัวบวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่มาเสียชีวิตเสียก่อน
