ปัตตานี - โจรใต้แอบซุกระเบิด 5 กก. ใต้ฐานปืนพญาตานีจำลองที่เพิ่งนำไปติดตั้งหน้ามัสยิดกรือเซะ ก่อนจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารจนลำกล้องของปืนใหญ่หัก 2 ท่อน เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายสัญลักษณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปัตตานี ว่า เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันนี้ (11 มิ.ย.) พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นบริเวณหน้ามัสยิดกรือเซะ ตั้งอยู่ริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ม.3 บ้านกรือเซะ ต.ตันหยงลุโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี จึงประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบว่ามีชาวบ้านจำนวนมากยืนดูอยู่ริมถนน จึงได้กันชาวบ้านออกห่างจุดเกิดเหตุเพื่อความปลอดภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบว่า กระบอกปืนถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหายหัก 2 ท่อน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ประชาชนกำลังร่วมทำละหมาดอยู่บนมัสยิดกรือเซะ ซึ่งอยู่ห่างจากปืนพญาตานีประมาณ 100 เมตร ปรากฏว่าได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น ทำให้ประชาชนตกใจ แต่เมื่อรู้ว่าปืนพญาตานีถูกลอบวางระเบิดจนได้รับความเสียหายต่างรู้สึกเสียใจที่สัญลักษณ์ของจังหวัดถูกลอบทำลาย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อคนร้ายน่าจะทำทีเข้ามาดูปืนพญาตานี จากนั้นนำระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารนำไปวางใต้ฐานของปืน ก่อนจะจุดชนวนระเบิดขึ้นเพื่อสร้างสถานการณ์
สำหรับปืนพญาตานีจำลองนี้มีขนาดเท่าของจริง มีน้ำหนักประมาณ 3 ตัน โดยทางจังหวัดได้ให้ทางกรมศิลปากรทำการหล่อขึ้นเหมือนของจริง ด้วยงบประมาณ 3 ล้านบาท และเพิ่งนำมาวางมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชาวจังหวัดปัตตานี รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ถึงความหลากหลายของวัฒนธรรมวิธีชีวิตของชุมชน แต่ถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีทำลายจนเสียหาย
หลังจากที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ลอบวางระบิดปืนใหญ่พญาตานีจำลอง บริเวณหน้ามัสยิดกรือเซะ ตั้งอยู่ริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ม.3 บ้านกรือเซะ ต.ตันหยงลุโละ อ.เมืองปัตตานี จนปืนใหญ่พญาตานีจำลองหัก 2 ท่อน หลังก่อเหตุคนร้ายได้นำแผ่นผ้ามาตั้งไว้อยู่บริเวณ ม.1 ต.ตะลุโบ๊ะ อ.เมืองปัตตานี โดยเขียนเป็นภาษามลายู มีใจความว่า “ปืนใหญ่พญาตานีนี้เราไม่ใช่เจ้าของ อาณาจักรสยามมีแต่การหลอกลวง” ซึ่งสื่อให้เห็นถึงความไม่ต้องการปืนใหญ่พญาตานีจำลอง
นายแวอูมาร์ แวดอเลาะ กำนันตำบลตันหยงลุโละ กล่าวพร้อมไปกับมีน้ำตาคลอว่า จริงๆ แล้วคนในชุมชนเองต้องการปืนใหญ่พญาตานี เพื่อต้องการให้พื้นที่ของชุมชนได้เป็นแหล่งเรียนรู้ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้ชุมชนที่มีความเงียบเหงาจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ผ่านมาได้กลับมาคึกครื้นอีกครั้ง และยังจะช่วยสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน หลังเกิดเหตุอย่างนี้ทุกคนมีความรู้สึกเสียใจมาก และไม่อยากให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเพราะมันคือความรู้สึก และความต้องการของคนในชุมชนด้วย