ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนร้ายบุกเดี่ยวใช้มีดจี้พนักงานฝ่ายบุคคลบริษัท “นนทศักดิ์ มารีน จำกัด” ที่ภูเก็ต ชิงเงินสดไปได้กว่า 60,000 บาท คาดคนร้ายติดตามผู้เสียหายมาจากธนาคาร ตำรวจเร่งไล่ล่าตัวแล้ว
เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ภายในบริษัทนนทศักดิ์ มารีน จำกัด ซ.8 หมู่บ้านภูเก็ตวิลล่าแคลิฟอร์เนีย บ้านเลขที่ 25/42 ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้สกัดจับกุมคนร้ายและตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังรับแจ้ง ร.ต.ต.สมบูรณ์ มาลัย พนักงานสอบ สภ.วิชิต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รายงานผู้บังคับบัญชา และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย ผกก.สภ.วิชิต พ.ต.ท.อำพล จันทกูล สวป.สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.วิชิต พร้อมแจ้งสกัดจับคนร้ายทุกเส้นทาง แต่ขณะนี้ยังไร้วี่แวว
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว ปลูกเรียงรายเป็นแถวยาว ที่บ้านเลขที่ 25/42 ม.3 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ซึ่งภายในเปิดเป็นสำนักงานฝ่ายบุคคลของบริษัทนนทศักดิ์ มารีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการทางด้านการท่องเที่ยว ภายในมีโต๊ะทำงานของพนักงาน จำนวน 4 โต๊ะ มีพนักงานทำงานอยู่ จำนวน 4 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบปากคำพนักงานภายในบริษัทดังกล่าว และจากการสอบถาม น.ส.พรภิรมย์ จันทร์ทอง อยู่บ้านเลขที่ 36/1 ม.9 ต.เสือหึง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตัวเอง และเพื่อนได้เดินทางไปถอนเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเจ้าฟ้า 2 ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก จำนวน 69,239 บาท ซึ่งหลังจากถอนเงินมาจากธนาคารแล้ว ได้เดินทางไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อซึ่งอยู่ใกล้กับธนาคาร
หลังจากนั้น ได้ขับรถจักรยานยนต์เดินทางกลับมายังสำนักงาน ซึ่งระหว่างเดินทางกลับก็ได้นำเงินที่ถอนมาจากธนาคารเก็บไว้ในกระเป๋าสะพายปิดมิดชิด พอถึงที่ทำงานก็ได้นำเงินออกจากกระเป๋าสะพายมาวางบนโต๊ะทำงานเพื่อที่จะนับเงินอีกครั้ง ระหว่างที่หยิบเงินมาวางก็มีคนร้ายเป็นชายหนึ่งคน ลักษณะสูงสวมเสื้อแจ็กเกตสีแดง สวมกางเกงฟุตบอลสีดำ ร้องเท้าเตะสีเขียว สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ บุกเข้ามาใช้มีดจี้บังคับตนให้นำเงินที่วางอยู่บนโต๊ะส่งให้คนร้าย
ต่อมา คนร้ายรายเดิมได้เดินไปยังโต๊ะทำงานซึ่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานของตน แล้วใช้มีดจี้พนักงานที่นั่งอยู่ที่โต๊ะดังกล่าว ก่อนที่จะหยิบเอาโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะดังกล่าว จำนวน 3 เครื่องไป ซึ่งประกอบด้วยโทรศัพท์ไอโฟน 5 1 เครื่อง โทรศัพท์ยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง และโทรศัพท์ยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่อง หลังจากคนร้ายได้เงิน และโทรศัพท์ไปแล้วก็ได้เดินออกไปจากสำนักงานไปอย่างใจเย็น แล้วไปเอารถจักรยานยนต์ที่คนร้ายจอดไว้หน้าสโมสรหมู่บ้านดังกล่าวก่อนที่ขับรถหนีไปย่างรวดเร็ว
พล.ต.ต.โชติ กล่าวว่า จากการสอบสวน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด คาดว่าคนร้ายรายนี้น่าจะติดตามผู้เสียหายมาจากธนาคาร เนื่องจากการตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วพบมีรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่ขับตามผู้เสียหายมา ส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายที่เกิดเหตุนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานี พร้อมด้วยชุดสืบสวนออกตรวจสอบรถต้องสงสัยคันดังกล่าวแล้ว พร้อมสกัดจับคนร้ายทันที
เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ภายในบริษัทนนทศักดิ์ มารีน จำกัด ซ.8 หมู่บ้านภูเก็ตวิลล่าแคลิฟอร์เนีย บ้านเลขที่ 25/42 ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้สกัดจับกุมคนร้ายและตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังรับแจ้ง ร.ต.ต.สมบูรณ์ มาลัย พนักงานสอบ สภ.วิชิต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รายงานผู้บังคับบัญชา และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย ผกก.สภ.วิชิต พ.ต.ท.อำพล จันทกูล สวป.สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.วิชิต พร้อมแจ้งสกัดจับคนร้ายทุกเส้นทาง แต่ขณะนี้ยังไร้วี่แวว
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว ปลูกเรียงรายเป็นแถวยาว ที่บ้านเลขที่ 25/42 ม.3 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ซึ่งภายในเปิดเป็นสำนักงานฝ่ายบุคคลของบริษัทนนทศักดิ์ มารีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการทางด้านการท่องเที่ยว ภายในมีโต๊ะทำงานของพนักงาน จำนวน 4 โต๊ะ มีพนักงานทำงานอยู่ จำนวน 4 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบปากคำพนักงานภายในบริษัทดังกล่าว และจากการสอบถาม น.ส.พรภิรมย์ จันทร์ทอง อยู่บ้านเลขที่ 36/1 ม.9 ต.เสือหึง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตัวเอง และเพื่อนได้เดินทางไปถอนเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเจ้าฟ้า 2 ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก จำนวน 69,239 บาท ซึ่งหลังจากถอนเงินมาจากธนาคารแล้ว ได้เดินทางไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อซึ่งอยู่ใกล้กับธนาคาร
หลังจากนั้น ได้ขับรถจักรยานยนต์เดินทางกลับมายังสำนักงาน ซึ่งระหว่างเดินทางกลับก็ได้นำเงินที่ถอนมาจากธนาคารเก็บไว้ในกระเป๋าสะพายปิดมิดชิด พอถึงที่ทำงานก็ได้นำเงินออกจากกระเป๋าสะพายมาวางบนโต๊ะทำงานเพื่อที่จะนับเงินอีกครั้ง ระหว่างที่หยิบเงินมาวางก็มีคนร้ายเป็นชายหนึ่งคน ลักษณะสูงสวมเสื้อแจ็กเกตสีแดง สวมกางเกงฟุตบอลสีดำ ร้องเท้าเตะสีเขียว สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ บุกเข้ามาใช้มีดจี้บังคับตนให้นำเงินที่วางอยู่บนโต๊ะส่งให้คนร้าย
ต่อมา คนร้ายรายเดิมได้เดินไปยังโต๊ะทำงานซึ่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานของตน แล้วใช้มีดจี้พนักงานที่นั่งอยู่ที่โต๊ะดังกล่าว ก่อนที่จะหยิบเอาโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะดังกล่าว จำนวน 3 เครื่องไป ซึ่งประกอบด้วยโทรศัพท์ไอโฟน 5 1 เครื่อง โทรศัพท์ยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง และโทรศัพท์ยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่อง หลังจากคนร้ายได้เงิน และโทรศัพท์ไปแล้วก็ได้เดินออกไปจากสำนักงานไปอย่างใจเย็น แล้วไปเอารถจักรยานยนต์ที่คนร้ายจอดไว้หน้าสโมสรหมู่บ้านดังกล่าวก่อนที่ขับรถหนีไปย่างรวดเร็ว
พล.ต.ต.โชติ กล่าวว่า จากการสอบสวน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด คาดว่าคนร้ายรายนี้น่าจะติดตามผู้เสียหายมาจากธนาคาร เนื่องจากการตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วพบมีรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่ขับตามผู้เสียหายมา ส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายที่เกิดเหตุนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานี พร้อมด้วยชุดสืบสวนออกตรวจสอบรถต้องสงสัยคันดังกล่าวแล้ว พร้อมสกัดจับคนร้ายทันที