นราธิวาส - ตำรวจฟันธงคนร้ายที่วางระเบิดร้านค้าที่สุคิริน 2 จุด เป็นกลุ่มเดียวกัน หลังพบหลักฐานผลิตมาจากที่เดียวกัน วางแผนให้กลุ่มคนร้าย 2 ชุด แฝงตัวนำระเบิดไปซุก คาดแนวร่วมต่างพื้นที่เข้ามาก่อเหตุ
วันนี้ (5 มิ.ย.) สำหรับความคืบหน้าเหตุคนร้ายวางระเบิดร้านค้า 2 จุด ในพื้นที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ในช่วงบ่ายของวันที่ 4 มิ.ย.56 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 รายนั้น ล่าสุด จากการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบว่าระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายใช้ประกอบใส่ไว้ในกระป๋องสีสเปรย์ หนัก 1 กก. จุดชนวนด้วยการตั้งปลุกจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล พบว่า ระเบิดทั้ง 2 ลูก ที่คนร้ายนำมาวางซุกไว้ที่ร้าน ช.พานิช เลขที่ 163 ม.4 ต.สุคิริน และที่ร้านมิสเตอร์โฟน เลขที่ 179/1 ซึ่งห่างกัน 5 คูหานั้น
พบว่าผลิตมาจากที่เดียวกัน และมีการวางแผนให้กลุ่มคนร้าย 2 ชุด แฝงตัวนำระเบิดไปซุกไว้ที่ชั้นวางของ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นคนร้ายกลุ่มใด เนื่องจากในพื้นที่ อ.สุคิริน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ไม่มีแกนนำกองกำลังติดอาวุธ RKK เคลื่อนไหวในพื้นที่แต่อย่างใด แต่คาดว่าน่าจะเป็นสมาชิกแนวร่วมต่างพื้นที่แฝงตัวเข้ามาก่อเหตุร้าย เพื่อทำลายบรรยากาศการค้าที่ปัจจุบันถือว่า อ.สุคิรินเป็น 1 ในอำเภอ ที่จัดอยู่ในพื้นที่สีเขียวปลอดการก่อการร้ายมายาวนานกว่า 3 ปีแล้ว
ส่วนกรณีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จำนวน 3 ราย ซึ่งประกอบด้วย นายมูฮัมหมัดรุสลัน อาลียะ อายุ 32 ปี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำตัว นายมะซู หามะ อายุ 23 ปี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาทั้ง 2 ข้าง และนางแมะหม๊ะ หามะ อายุ 55 ปี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณหน้าท้อง และขาหนีบ ขณะนี้อาการดีขึ้นตามลำดับ และนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
วันนี้ (5 มิ.ย.) สำหรับความคืบหน้าเหตุคนร้ายวางระเบิดร้านค้า 2 จุด ในพื้นที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ในช่วงบ่ายของวันที่ 4 มิ.ย.56 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 รายนั้น ล่าสุด จากการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบว่าระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายใช้ประกอบใส่ไว้ในกระป๋องสีสเปรย์ หนัก 1 กก. จุดชนวนด้วยการตั้งปลุกจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล พบว่า ระเบิดทั้ง 2 ลูก ที่คนร้ายนำมาวางซุกไว้ที่ร้าน ช.พานิช เลขที่ 163 ม.4 ต.สุคิริน และที่ร้านมิสเตอร์โฟน เลขที่ 179/1 ซึ่งห่างกัน 5 คูหานั้น
พบว่าผลิตมาจากที่เดียวกัน และมีการวางแผนให้กลุ่มคนร้าย 2 ชุด แฝงตัวนำระเบิดไปซุกไว้ที่ชั้นวางของ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นคนร้ายกลุ่มใด เนื่องจากในพื้นที่ อ.สุคิริน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ไม่มีแกนนำกองกำลังติดอาวุธ RKK เคลื่อนไหวในพื้นที่แต่อย่างใด แต่คาดว่าน่าจะเป็นสมาชิกแนวร่วมต่างพื้นที่แฝงตัวเข้ามาก่อเหตุร้าย เพื่อทำลายบรรยากาศการค้าที่ปัจจุบันถือว่า อ.สุคิรินเป็น 1 ในอำเภอ ที่จัดอยู่ในพื้นที่สีเขียวปลอดการก่อการร้ายมายาวนานกว่า 3 ปีแล้ว
ส่วนกรณีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จำนวน 3 ราย ซึ่งประกอบด้วย นายมูฮัมหมัดรุสลัน อาลียะ อายุ 32 ปี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำตัว นายมะซู หามะ อายุ 23 ปี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาทั้ง 2 ข้าง และนางแมะหม๊ะ หามะ อายุ 55 ปี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณหน้าท้อง และขาหนีบ ขณะนี้อาการดีขึ้นตามลำดับ และนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
