สุราษฎร์ธานี - นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ฉุนจัด อัดยับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ออกมาระบุจะ ยุบ อบจ.ทั่วประเทศ ชี้คำพูดแบบนี้ทำให้รัฐเสียหาย ย้ำใครมีหน้าที่อะไร รับผิดชอบอะไรควรทำให้ดี และการทำงานของ อบจ.ไม่ทับซ้อนกัน และกลับถามประชาชนต้องการอย่างไร
วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่ อบจ.สุราษฎร์ธานี นายมนตรี เพชรขุ้ม นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ที่นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกมาระบุว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทย เห็นพ้องกันว่าจะเสนอแก้กฎหมายให้ยุบองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.ทั่วประเทศ ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่แล้ว ทำให้มีพื้นที่ทับซ้อนกัน เกิดการทำงานซ้ำซ้อนและเกิดความสับสนเรื่องงบประมาณว่า โดยความเห็นส่วนตัวมองว่าหากจะมีการยุบ อบจ.จริง ตนเองไม่กระทบ แนวทางในการทำงานการเมืองยังมีอีกมากมาย หากยังไม่ยุบตนก็ลงสมัครนายก อบจ.ต่อไป หากมีการยุบขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องหันไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. รับใช้ประชาชนแข่งกับ ส.ส.และแข่งกับ ส.ส. ที่ออกมาพูดแบบนี้
การเปิดประเด็นแบบนี้ ในกรณีที่นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวในเรื่องที่จะยุบ อบจ.เป็นเรื่องคำพูดที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อพรรคเพื่อไทย และก่อให้เกิดความเสียหายต่อเพื่อน ส.ส.ด้วยกัน ด้วยเหตุผลว่าพรรคเพื่อไทยกำลังเดินมาในทิศทางที่ดี และเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน แต่ในขณะเดียวกัน กลับมีรัฐมนตรี หรือ ส.ส.ในพรรคออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ก็แปลว่ากำลังทำลายชื่อเสียงของพรรค และเป็นการทำลายหน้าที่ที่ดีของนายกรัฐมนตรี ผมต้องขอฝากท่านนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายดูแลเรื่องนี้ด้วย การที่มี ส.ส.และรัฐมนตรีอยู่ในสังกัดออกมาพูดอย่างนี้ เท่ากับกำลังสร้างศัตรูขึ้นอีกมากมาย
อย่าลืมว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดทำหน้าที่ขับเคลื่อนในการพัฒนาจังหวัดแต่ละจังหวัด และการที่ออกมาระบุว่า มีการทับซ้อนกันในการบริหารการจัดการการจัดเก็บภาษี ตนขอยืนยันว่า ไม่มีการทับซ้อนอะไรทั้งสิ้น ต่างก็ทำหน้าที่ ต่างก็พัฒนาแต่ละด้านขององค์กรไป องค์การบริหารส่วนจังหวัดก็มีหน้าที่ชัดเจนว่าจัดเก็บภาษีจากอะไรบ้าง และ อบจ.ทุกจังหวัดก็มีหน้าที่ในการหารายได้ ซึ่งไม่เป็นการทับซ้อนกับเทศบาล และ อบต.แต่อย่างใด ในขณะเดียวกัน การพัฒนาพื้นที่ก็ไม่ทับซ้อน สิ่งที่เกี่ยวข้องกันองค์การบริหารส่วนจังหวัดก็มีงบประมาณบริหารการจัดการมากกว่าเทศบาล และ อบต.เป็นจำนวนมาก ซึ่งเทศบาล และ อบต.เราก็เป็นชาวท้องถิ่นด้วยกัน อบจ.ก็ได้ช่วยเหลือสนับสนุนในการส่งเสริมตามลำดับเช่นกันตามที่ร้องขอมา
ในเมื่อนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมออกมาระบุเช่นนั้น ท่านควรทบทวนตัวเองมากกว่า คำพูดของท่านอาจทำให้เสียหายไปถึงพรรคการเมือง และคณะรัฐมนตรี ท่านควรสำรวจตัวเองว่าทำหน้าที่ดีพอแล้วหรือยัง หรือว่าทำหน้าที่ไม่ได้ก็ว่ากันไป การที่ออกมากล่าวอ้างเรื่องอะไรก็แล้วแต่คำพูดแบบนี้ ภาษาภาคใต้เค้าว่าพูดแบบปากไม่ดี หรือปากหมา ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องว่ากล่าวตักเตือนกันบ้าง ไม่ใช่ออกมาพูดแบบลอยๆ องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีกว่า 70 จังหวัด มีนายก มีรองนายก มีเลขา และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแต่ละเขต พร้อมทั้งข้าราชการในสังกัดอีกจำนวนมาก อาจเป็นชนวนก่อให้เกิดความขัดแย้งต่อพรรคการเมืองได้ เนื่องจากทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ และก่อให้เกิดความเสียหายต่อการพัฒนาประเทศในอนาคตต่อไป
นายมนตรี ได้ยืนยันอีกว่า การทำงานของ อบจ.ไม่ซ้ำซ้อนกับ อบต. และเทศบาลแต่อย่างใด และพื้นที่พัฒนาก็ไม่ได้ซ้ำซ้อนหรือเกี่ยวข้องกัน อบจ.ก็มีงบประมาณการบริหารจัดการก็มีจำนวนมาก อบต.หรือเทศบาล ทาง อบจ.ก็ส่งเสริมช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พร้อมขอให้หันกลับถามประชาชนว่ามีความต้องการอย่างไร และคาดว่าอีกประมาณวันสองวันนี้ ทางสมาพันธ์ อบจ.ทั่วประเทศ และสมาคม อบจ.จะออกมาเคลื่อนไหวถามความชัดเจนต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่ อบจ.สุราษฎร์ธานี นายมนตรี เพชรขุ้ม นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ที่นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกมาระบุว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทย เห็นพ้องกันว่าจะเสนอแก้กฎหมายให้ยุบองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.ทั่วประเทศ ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่แล้ว ทำให้มีพื้นที่ทับซ้อนกัน เกิดการทำงานซ้ำซ้อนและเกิดความสับสนเรื่องงบประมาณว่า โดยความเห็นส่วนตัวมองว่าหากจะมีการยุบ อบจ.จริง ตนเองไม่กระทบ แนวทางในการทำงานการเมืองยังมีอีกมากมาย หากยังไม่ยุบตนก็ลงสมัครนายก อบจ.ต่อไป หากมีการยุบขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องหันไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. รับใช้ประชาชนแข่งกับ ส.ส.และแข่งกับ ส.ส. ที่ออกมาพูดแบบนี้
การเปิดประเด็นแบบนี้ ในกรณีที่นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวในเรื่องที่จะยุบ อบจ.เป็นเรื่องคำพูดที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อพรรคเพื่อไทย และก่อให้เกิดความเสียหายต่อเพื่อน ส.ส.ด้วยกัน ด้วยเหตุผลว่าพรรคเพื่อไทยกำลังเดินมาในทิศทางที่ดี และเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน แต่ในขณะเดียวกัน กลับมีรัฐมนตรี หรือ ส.ส.ในพรรคออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ก็แปลว่ากำลังทำลายชื่อเสียงของพรรค และเป็นการทำลายหน้าที่ที่ดีของนายกรัฐมนตรี ผมต้องขอฝากท่านนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายดูแลเรื่องนี้ด้วย การที่มี ส.ส.และรัฐมนตรีอยู่ในสังกัดออกมาพูดอย่างนี้ เท่ากับกำลังสร้างศัตรูขึ้นอีกมากมาย
อย่าลืมว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดทำหน้าที่ขับเคลื่อนในการพัฒนาจังหวัดแต่ละจังหวัด และการที่ออกมาระบุว่า มีการทับซ้อนกันในการบริหารการจัดการการจัดเก็บภาษี ตนขอยืนยันว่า ไม่มีการทับซ้อนอะไรทั้งสิ้น ต่างก็ทำหน้าที่ ต่างก็พัฒนาแต่ละด้านขององค์กรไป องค์การบริหารส่วนจังหวัดก็มีหน้าที่ชัดเจนว่าจัดเก็บภาษีจากอะไรบ้าง และ อบจ.ทุกจังหวัดก็มีหน้าที่ในการหารายได้ ซึ่งไม่เป็นการทับซ้อนกับเทศบาล และ อบต.แต่อย่างใด ในขณะเดียวกัน การพัฒนาพื้นที่ก็ไม่ทับซ้อน สิ่งที่เกี่ยวข้องกันองค์การบริหารส่วนจังหวัดก็มีงบประมาณบริหารการจัดการมากกว่าเทศบาล และ อบต.เป็นจำนวนมาก ซึ่งเทศบาล และ อบต.เราก็เป็นชาวท้องถิ่นด้วยกัน อบจ.ก็ได้ช่วยเหลือสนับสนุนในการส่งเสริมตามลำดับเช่นกันตามที่ร้องขอมา
ในเมื่อนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมออกมาระบุเช่นนั้น ท่านควรทบทวนตัวเองมากกว่า คำพูดของท่านอาจทำให้เสียหายไปถึงพรรคการเมือง และคณะรัฐมนตรี ท่านควรสำรวจตัวเองว่าทำหน้าที่ดีพอแล้วหรือยัง หรือว่าทำหน้าที่ไม่ได้ก็ว่ากันไป การที่ออกมากล่าวอ้างเรื่องอะไรก็แล้วแต่คำพูดแบบนี้ ภาษาภาคใต้เค้าว่าพูดแบบปากไม่ดี หรือปากหมา ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องว่ากล่าวตักเตือนกันบ้าง ไม่ใช่ออกมาพูดแบบลอยๆ องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีกว่า 70 จังหวัด มีนายก มีรองนายก มีเลขา และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแต่ละเขต พร้อมทั้งข้าราชการในสังกัดอีกจำนวนมาก อาจเป็นชนวนก่อให้เกิดความขัดแย้งต่อพรรคการเมืองได้ เนื่องจากทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ และก่อให้เกิดความเสียหายต่อการพัฒนาประเทศในอนาคตต่อไป
นายมนตรี ได้ยืนยันอีกว่า การทำงานของ อบจ.ไม่ซ้ำซ้อนกับ อบต. และเทศบาลแต่อย่างใด และพื้นที่พัฒนาก็ไม่ได้ซ้ำซ้อนหรือเกี่ยวข้องกัน อบจ.ก็มีงบประมาณการบริหารจัดการก็มีจำนวนมาก อบต.หรือเทศบาล ทาง อบจ.ก็ส่งเสริมช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พร้อมขอให้หันกลับถามประชาชนว่ามีความต้องการอย่างไร และคาดว่าอีกประมาณวันสองวันนี้ ทางสมาพันธ์ อบจ.ทั่วประเทศ และสมาคม อบจ.จะออกมาเคลื่อนไหวถามความชัดเจนต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป