xs
xsm
sm
md
lg

ชาวปัตตานีแห่ชมการกลับมาของ “ปืนใหญ่พญาตานี” ต้อนรับยิ่งใหญ่วางหน้ามัสยิดกรือเซะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัตตานี - ชาวปัตตานีแห่ชมปืนใหญ่พญาตานีจำลอง ที่จะนำมาวางไว้หน้ามัสยิดกรือเซะ มีริ้วขบวนต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ หลังจากมีการร้องขอให้นำกลับมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว จึงมีพระบรมราชานุญาตให้ทำปืนใหญ่พญาตานีจำลอง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และรำลึกถึงประวัติศาสตร์เมืองตานี

วันนี้ (2 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมนางรวี วาเล๊าะ ท่องเที่ยวจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนจังหวัดปัตตานี ได้ร่วมกันต้อนรับขบวนปืนใหญ่พญาตานี ที่เดินทางมาถึงบริเวณหน้ามัสยิดโบราณกรือเซะ ท่ามกลางคลื่นมหาชนชาวปัตตานีที่แห่มาชื่นชมความยิ่งใหญ่ ขบวนการร่วมต้อนรับปืนใหญ่พญาตานี

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ตามที่ประชาชนในพื้นที่ได้เรียกร้องให้นำปืนใหญ่พญาตานีที่ตั้งอยู่ด้านหน้ากระทรวงกลาโหม กลับมาตั้งยังจังหวัดปัตตานี เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ในปี พ.ศ.2546 พ.ต.ท.เจ๊ะอิสมาแอล เจ๊ะมง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปัตตานี ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการศิลปะ ศาสนาและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ในขณะนั้น ได้นำเสนอให้ทางคณะกรรมาธิการผลักดันให้มีการนำปืนใหญ่พญาตานีกลับมาไว้ที่จังหวัดปัตตานีอีกครั้ง จึงมีการทำหนังสือสอบถามกรมศิลปากร และได้ทำหนังสือต่อไปยังเลขาสำนักพระราชวัง เพื่อถามความเป็นไปได้ในการที่จะนำปืนใหญ่ฯ กลับมาไว้ที่ปัตตานีอีกครั้ง

จากนั้นจึงได้รับหนังสือชี้แจงจากเลขาสำนักพระราชวังว่า ไม่สามารถที่จะนำปืนใหญ่พญาตานีที่วางไว้หน้ากระทรวงกลาโหมได้ เพราะตกเป็นสมบัติพระมหากษัตริย์ ประเภททรัพย์สินส่วนสาธารสมบัติของแผ่นดินของชาติ โดยทรงมีพระบรมราชานุญาตให้มีการหล่อจำลองปืนเท่าของจริงได้ หลังจากได้รับพระบรมราชนุญาต ทางคณะกรรมาธิการได้นำเรื่องดังกล่าวมาหารือกันที่จังหวัดปัตตานี โดยมีนายมานิต วัฒนเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เข้าร่วมประชุมแทนผู้ราชการจังหวัดปัตตานี (นายเสนอ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในขณะนั้น) มาถึง 2 ครั้ง โดยในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ร่วมกับทางจังหวัด และตัวแทนประชาชนชาวปัตตานีในขณะนั้น มีมติให้มีการจำลองขึ้นมาหลังได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยกำหนดที่จะหล่อขึ้นบริเวณหน้ามัสยิดกรือเซะ เนื่องจากในขณะนั้นในที่ประชุมมีความเห็นว่า การหล่อปืนใหญ่ในครั้งนี้หมายถึงการหล่อหลอมจิตใจคนใน 3 จังหวัดเป็นหนึ่งใจเดียวกัน ควบคู่กับการหล่อหลอมปืนควบคู่กันไป แต่ในครั้งนั้นยังไม่มีข้อยุติว่าจะนำไปวางไว้ ณ ที่แห่งใด ในส่วนงบประมาณนั้นเน้นรับบริจาคมากกว่าการจัดในรูปของงบประมาณ แต่หลังจากนั้นเรื่องก็ได้เงียบไป

จนกระทั่งในสมัยของ นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้นำเรื่องการหล่อปืนใหญ่พญาตานีจำลองมาปัดฝุ่นอีกครั้ง โดยมีแนวคิดจะใช้วิธีร่วมรับบริจาคคนละไม่เกิน 1 บาท เนื่องจากขณะนั้นมีคนไทยเชื้อสายจีน โดยเฉพาะตระกูลแซ่หลี่ เสนอจะเข้าร่วมในการจำลองปืนในครั้งนี้ แต่เรื่องก็เงียบไป

จนกระทั่งล่าสุด ในสมัย นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล โดยนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ร่วมผลักดันอีกครั้งภายใต้ “โครงการสร้างศูนย์เรียนรู้การท่องเที่ยวอารยธรรมปัตตานี” เพื่อเสริมสร้างการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดความคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ในพื้นที่ต้องเกิดภาวะซบเซาจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่มายาวนาน โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนงบประมาณเฉพาะกิจของกระทรวงการคลัง ผ่านมายังการท่องเที่ยวจังหวัดปัตตานี ในภารกิจมีดังนี้ การปรับปรุงอาคารศูนย์การเรียนรู้ การหล่อจำลองปืนใหญ่พญาตานีจำลอง สร้างอาคารจำหน่ายที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์ OTOP และการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายนอกอาคารศูนย์เรียนรู้และพื้นที่โดยรอบ

ส่วนบรรยากาศของการต้อนรับการเดินทางของปืนใหญ่พญาตานีในครั้งนี้ ได้มีการจัดริ้วขบวนรถโบราณ รถจี๊ป และรถบิ๊กไบค์เป็นริ้วขบวนที่ยาวมาก ท่ามกล่างประชาชนทุกชนชาติ ศาสนา เข้าร่วมในการชื่นชมเป็นจำนวนมาก



 
 



กำลังโหลดความคิดเห็น