ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “อาศิส พิทักษ์คุมพล” จุฬาราชมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “ภูเก็ตอันดามันฮาลาลเอ็กซ์โป ปี 2556” ด้าน รองนายกฯ อบจ.ภูเก็ต เผยงานดังกล่าวหวังเพิ่ม และพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบฮาลาล พร้อมสร้างความเชื่อถือให้แก่นักท่องเที่ยวมุสลิม
วานนี้ (31 พ.ค.) ที่บริเวณเวทีกลางสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายอาศิส พิทักษ์คุมพล ฯพณฯ จุฬาราชมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ภูเก็ตอันดามันฮาลาลเอ็กซ์โป ปี 2556” (Phuket Andaman Halal for Tourism 2013: PAHT 2013) โดยมี ดร.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ตลอดจนผู้แทนองค์กรฮาลาลจาก 19 ประเทศทั่วโลก คณะทูตานุทูตประจำประเทศไทย แขกผู้มีเกียรติ และพี่น้องประชาชน เข้าร่วมงาน
นายสรธรรม จินดา รองนายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการจัดงานภูเก็ตอันดามันฮาลาลนี้ มีวัตถุประสงค์ที่จะเพิ่ม และพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยวแบบฮาลาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวมุสลิม ซึ่งมีการเจริญเติบโตอย่างมากในปัจจุบัน และในอนาคต เมื่อมีการรวมตัวกันของกลุ่มประเทศอาเซียน (AEC) และนักท่องเที่ยวชาวไทย รวมทั้งนักเที่ยวทั่วโลกที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นซึ่งนับว่าเป็นเรื่องใหม่ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อตอบสนองกับความต้องการของชาวมุสลิมที่สอดคล้องกับหลักการศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะในเรื่องของการบริการ และอาหารฮาลาลจังหวัดภูเก็ต โดย อบจ.ภูเก็ต ได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว
โดยมีการแสดงนิทรรศการ และกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น แสดงสินค้า และอาหารฮาลาล การบรรยายของผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านศาสนาอิสลาม และถ่ายทอดสดทางสถานี TMTV และ Yateem TV การแสดงสาธิตวิถีชีวิต การดำเนินชีวิตของชาวมุสลิม วัฒนธรรมพื้นบ้านไทยมุสลิม การแสดงวิดีทัศน์ภาพย้อนยุควิถีมุสลิม มัสยิดที่สำคัญ และกิจกรรมมุสลิม การแสดงของนักเรียนในจังหวัดภูเก็ต การจัดซุ้มจำหน่ายอาหารฮาลาล สี่ภาค สินค้าฮาลาล โอทอปชั้นแนวหน้าที่ขึ้นชื่อของภูเก็ต และสินค้าฮาลาลจากประเทศมาเลเซีย มีการจำหน่ายเสื้อผ้า และหนังสือ
นายอาศิส พิทักษ์คุมพล ฯพณฯ จุฬาราชมนตรี กล่าวว่า ศาสนาอิสลามได้ส่งเสริมการมีสุขภาพดี และวางแนวทางในการรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ แต่จะพบว่าปัจจุบันมนุษย์จำนวนมากต้องเจ็บไข้ได้ป่วย เนื่องจากการบริโภคที่ขาดวินัย จึงทำให้เกิดการสูญเสียทั้งทรัพยากรธรรมชาติ และงบประมาณด้านการรักษาพยาบาล หากเราพิจารณาพระดำรัสแห่งอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ความว่า “และพวกเจ้าทั้งหลายจงกิน จงดื่ม และจงอย่าฟุ่มเฟือย” พระองค์อนุมัติให้กินให้ดื่ม แต่ปรามว่าอย่าฟุ่มเฟือย ซึ่งถือเป็นแนวทางการป้องกัน และเมื่อบริโภคอย่างมีวินัยแล้ว ประการสำคัญก่อนบริโภคต้องเป็นที่แน่ชัดว่าสิ่งที่จะบริโภคนั้นถูกต้องตามหลักศาสนา ดังพระดำรัสแห่งพระองค์ ความว่า “และจงบริโภคจากสิ่งที่อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ทรงให้เป็นเครื่องยังชีพแก่สูเจ้า ซึ่งสิ่งที่อนุมัติและที่ดีมีประโยชน์ต่อไป”
