xs
xsm
sm
md
lg

ประธานสภาภาคประชาสังคมชายแดนใต้ติง BRN ปล่อยคลิปทำลายบรรยากาศเจรจาสันติภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ ประธานสภาภาคประชาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้
ยะลา - ประธานสภาภาคประชาสังคมชายแดนใต้ ติงบีอาร์เอ็นอย่าทำลายบรรยากาศการพูดคุย ควรพูดเฉพาะประเด็นสร้างสรรค์ เชื่อเป็นนาทีทองของทั้ง 2 ฝ่ายในการสร้างสันติสุขร่วมกัน ถ้าหากกระบวนการสันติภาพล้มลงก็จะไม่ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย

จากกรณีที่นายฮัสซัน ตอยิบ และนายอับดุลการิม คาลิบ ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นแกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น ได้แถลงผ่านคลิปวิดีโอเผยแพร่ทางยูทิวบ์เป็นครั้งที่ 3 โดยคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื้อหาโดยสรุประบุว่า หลังจากมีการพูดคุยสันติภาพกับตัวแทนรัฐไทย และบีอาร์เอ็นยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ก็มีการก่อความรุนแรงกับชาวปาตานีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุการณ์กราดยิง 6 ศพ (เหตุเกิดในตัวเมืองปัตตานีเมื่อค่ำวันที่ 1 พ.ค.2556) รวมทั้งเหตุกราดยิงในมัสยิดไอร์ปาแย อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส, เหตุกราดยิงที่บ้านกาโสด อ.บันนังสตา จ.ยะลา รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐไทยเลิกสร้างความรุนแรงต่อชาวปาตานี โดยเฉพาะโต๊ะอิหม่าม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู อุสตาซ อบต. นอกจากนี้ นายฮัสซัน ยังได้กล่าวในคลิปด้วยว่า หลังจากที่ไทยปกครองปาตานี ทำให้ประชาชนปาตานีถูกรังแก ทำร้าย ทำให้เกิดบีอาร์เอ็นขึ้นมาเพื่อปลดปล่อยจากการปกครองของไทย บีอาร์เอ็นเป็นตัวแทนประชาชน ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (30 พ.ค.) นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ ประธานสภาภาคประชาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า จากกรณีคลิปดังกล่าว ในความเห็นส่วนตัวตนมองว่า คู่เจรจาทั้ง 2 ฝ่ายไม่ควรเร่งรีบให้เสียบรรยากาศ แต่ละฝ่ายยังไม่ควรยกประเด็นที่จะทำให้ถึงทางตัน เช่น ฝ่ายบีอาร์เอ็นก็ไม่น่าที่จะรีบช่วงชิงโอกาสทางการเมือง ตั้งประเด็นที่ทำให้ฝ่ายรัฐถึงทางตันเร็ว ฝ่ายรัฐบาลไทยก็เช่นกัน เรื่องที่จะหยิบขึ้นมาพูดก็ไม่ควรให้ฝ่ายบีอาร์เอ็นถึงทางตัน ในช่วงนี้เป็นการสร้างบรรยากาศความไว้วางใจ ต้องค่อยพูดค่อยคุยอย่างสร้างสรรค์ ถ้าไปยกประเด็นซึ่งเป็นประเด็นทางเทคนิค เช่น คดีก่อเหตุต่างๆ คดีทำร้ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของฝ่ายใด ก็ควรจะเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไป สอบสวน พิสูจน์หลักฐาน นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็ให้ดำเนินการไป บีอาร์เอ็น และรัฐบาลไทยไม่ควรนำเรื่องเหล่านี้มาเป็นข้อขัดแย้งข้อขัดข้อง ซึ่งจะเป็นอุปสรรค์ต่อกระบวนการสันติภาพ

“ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ การพูดคุยระหว่างกันก็ควรที่จะเป็นประเด็นที่สร้างสรรค์ ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการสันติภาพ และเกิดสันติสุข ต้องค่อยๆ พยายาม อย่าเร่งรีบทำให้เสียกระบวน ถ้าหากกระบวนการสันติภาพล้มลงก็จะไม่มีใครได้ประโยชน์ ทั้งฝ่ายรัฐบาลไทย และฝ่ายบีอาร์เอ็น การพูดคุยถือเป็นการดีที่ได้พูดคุยระหว่างกัน อย่ายกประเด็นที่เป็นเรื่องเทคนิคมาเป็นประเด็นปัญหา

ซึ่งกรณีฝ่ายบีอาร์เอ็นนำประเด็นทางเทคนิคขึ้นมาพูดนั้น ก็คงต้องย้อนกลับไปดูว่า เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 ใครที่ออกมาทำร้ายเจ้าหน้าที่ 300-400 คน อย่าไปพูดถึงเฉพาะตากใบ ไอปาร์แย กรือเซะ สะพานกอตอ ซึ่งบางกรณีก็ผ่านมา 30-40 ปีแล้ว ตนไม่เห็นด้วยกับการยกเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาทำให้บรรยากาศสันติภาพเสีย เพราะโอกาสในการพูดคุยครั้งนี้เป็นนาทีทองของทั้ง 2 ฝ่าย ต้องคุยกันไป ถ้าเราไม่ทำลายบรรยากาศการพูดคุย เพราะตนเชื่อว่า ไทยสามารถยุติสงครามคอมมิวนิสต์ในช่วงที่ผ่านมาได้ ถือเป็นกรณีตัวอย่างของโลก และถ้าเราสามารถยุติความขัดแย้งใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้นั้น ทั่วโลกก็กำลังจับตามอง บรรยากาศที่สร้างสรรค์เช่นนี้ก็หวังให้เกิดสันติภาพ และสันติสุขได้จริง” นายประสิทธิ์ กล่าว
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น