ชุมพร - ขุดพบซากฟอสซิลปะการังอายุกว่า 4,000-6,000 ปี ที่วัดประเดิม จ.ชุมพร ผู้เชี่ยวชาญระบุบริเวณดังกล่าวเคยเป็นทะเลมาก่อน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (29 พ.ค.) นายธวัชชัย เทพสุวรรณ ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 4 (สุราษฎร์ธานี) ได้เดินทางมาตรวจซากฟอสซิลที่วัดประเดิม ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร หลังจากมีผู้รับเหมาได้ขุดหลุมก่อสร้างกำแพงแก้วล้อมรอบพระอุโบสถ และพบซากฟอสซิลจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าอายุหลายร้อยปี นอกจากนั้น ยังพบของโบราณอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งอีกด้วย พระอธิการบุญคง บุญญการี เจ้าอาวาสวัดประเดิม จึงได้กันพื้นที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้า และประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบ
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ และผู้เชี่ยวชาญสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 4 (สุราษฎร์ธานี) พบว่า เป็นซากฟอสซิลปะการัง และยังตรวจสอบแล้วพบว่าบริเวณดังกล่าวเมื่อประมาณ 4,000-6,000 ปี เคยเป็นทะเลมาก่อน ซึ่งอาจเป็นทะเลน้ำตื้นที่ปะการังอยู่อาศัย นอกจากนั้นพบอีกว่าใต้พื้นดินภายในวัดยังมีฐานอิฐโบราณฝังอยู่ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์หลังเก่า โดยกรมศิลปกรได้ระบุว่า อิฐโบราณนั้นมีอายุกว่า 1,000 ปีมาแล้ว และยังเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้สร้างพระธาตุไชยา ในสมัยศรีวิชัยด้วย ดังนั้น จึงคาดว่าซากฟอสซิลปะการังดังกล่าวน่าจะมีอายุกว่า 4,000-6,000 ปี อย่างแน่นอน จึงต้องกันบริเวณดังกล่าวเพื่ออนุรักษ์เป็นแหล่งศึกษาทางประวัติศาสตร์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป
ขณะที่ พระอธิการบุญคง บุญญการี เจ้าอาวาสวัดประเดิม กล่าวว่า ได้ตั้งใจจะทำกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถมาตั้งนานแล้วแต่ยังไม่พร้อม กระทั่งทางวัดได้จัดงานสมโภชผ้าห่มพระปรางค์เจดีย์เสร็จสิ้นไปได้ราว 1 สัปดาห์ จึงได้ให้ช่างเข้ามาทำการก่อสร้าง และพอเริ่มขุดได้หลุมเดียวลึกประมาณ 50 ซม. ไปเจอซากฟอสซิลปะการังดังกล่าว โดยมีทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดชุมพร เข้ามาดูและประสานไปยังสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 4 (สุราษฎร์ธานี) มาตรวจสอบดังกล่าว
ด้านนายสุบง อุยสาห์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 7 ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นกรรมการวัดฝ่ายศิลปะปูนปั้น กล่าวว่า วันที่ขุดพบฟอสซิสปะการังตนได้เดินทางมาทำงานตั้งแต่ตอนเช้า และเห็นช่างผู้รับเหมาได้ขุดหลุมเพื่อที่จะตั้งเสาเข็ม โดยขุดพบก้อนหินที่ซึ่งมีลักษณะคล้ายเศษท่อนไม้มากองทับกันเป็นชั้นอยู่ใต้ดินที่กำลังขุดอยู่จำนวนมาก ตนคิดว่าคงเป็นเสาเสมาเก่า หรือวัตถุโบราณอะไรสักอย่างจึงหยิบดูปรากฏว่า เบากว่าซากไม้ทั่วๆ ไป จึงนำไปล้างน้ำเพื่อที่จะเอาไปให้เจ้าอาวาสดู แต่เมื่อนำวัตถุดังกล่าวลงแช่น้ำปรากฏว่า มีลักษณะเป็นฟองเหมือกลุ่มแก๊สผุดขึ้นมาจึงเอาไปให้เจ้าอาวาสดู และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบดังกล่าว