ตรัง - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เผยพบการลักลอบซื้อขายที่ดินเป็นจำนวนมาก ยืนยันผิดกฎหมายชัดเจน เพราะเป็นการบุกรุก เตือนทำอะไรลงไปเมื่อไหร่สั่งลุยจับทันที
วันนี้ (28 พ.ค.) นายมาโนช วงษ์สุรีรัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ 2 อำเภอของจังหวัดตรัง คือ อำเภอสิเกา และอำเภอกันตัง ประกอบด้วย เกาะแก่ง ป่าชายเลน สนทะเล หญ้าทะเล และหาดทรายที่ยาวกว่า 20 กิโลเมตร ด้วยเนื้อที่ประมาณ 144,292 ไร่ หรือ 230.86 ตารางกิโลเมตร แบ่งออกเป็นพื้นน้ำในทะเลอันดามัน ประมาณ 85,762 ไร่ และพื้นดินชายฝั่งทะเล รวมทั้งเกาะต่างๆ ประมาณ 58,530 ไร่
อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นดินชายฝั่งทะเล รวมทั้งเกาะต่างๆ นั้น ขณะนี้กำลังเจอปัญหาการพยายามบุกรุกเข้าไปถือครองกันเป็นจำนวนมาก ทั้งพื้นที่มีหลักฐานกล่าวอ้างแสดงสิทธิ และพื้นที่อุทยานทั่วไป ทำให้ที่ดินในบริเวณเหล่านั้นมีการขยับราคาเพิ่มสูงขึ้นมาก จากเดิมไร่ละไม่กี่พันกี่หมื่นบาท เป็นไร่ละหลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท แต่ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะของการแอบซื้อขายเปลี่ยนมือกันเอง ทั้งที่บริเวณนั้นอยู่ในเขตอุทยานอย่างชัดเจน และไม่สามารถนำไปดำเนินการอะไรได้ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ จากการเดินทางมาตรวจราชการของ นางกรภัทร์ ดำรงไทย ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้นำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการจัดทำป้ายแสดงข้อมูล หรือข้อกำหนดที่ชัดเจน เพื่อนำไปติดตั้งตามจุดต่างๆ ทุกระยะทาง 100 เมตร ในเขตอุทยานฯ นับตั้งแต่หาดปากเมง ไปจนถึงหาดยาว รวมประมาณ 100 ป้าย เพื่อบอกให้ประชาชนได้รับทราบถึงแนวเขตที่ชัดเจน และจะได้ไม่เข้าไปครอบครองที่ดินบริเวณเหล่านั้น
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีข้อมูลว่า ตรงจุดใดบ้างที่มีการแอบซื้อขายเปลี่ยนมือกัน แต่หากผู้ครอบครองรายนั้นไม่เข้าไปดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ ทางอุทยานฯ ก็ยังคงไม่ดำเนินคดีอะไรตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม หากวันใดที่ผู้ครอบครองพื้นที่รายนั้น กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็จะเข้าจับกุมโดยทันที ฉะนั้น ผู้ใดก็ตามที่อยากจะซื้อที่ดิน แต่สงสัยว่ามีกรรมสิทธิ์ถูกต้องหรือไม่ ขอให้มาตรวจสอบพื้นที่กับทางอุทยานฯ เสียก่อน จะได้ไม่ต้องเสียเงินไปฟรีๆ หรือเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
