ตรัง - ผู้ประกอบการเรือทัวร์ท่องเที่ยว จ.ตรัง ยันพายุไซโคลน “มหาเสน” ไม่กระทบ และยังคงนำนักท่องเที่ยวออกไปท้องทะเลตามปกติ แม้จะมีการประกาศเตือนจากกรมอุตินิยมวิทยา และมีคำสั่งปิดการท่องเที่ยวท้องทะเล ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า โดยอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้าน จ.ตรัง นำเรือหางยาวเข้าจอดเทียบท่าริมฝั่ง และงดการออกเรือจับสัตว์น้ำในระยะนี้ หวั่นไม่ปลอดภัย
จากกรณีที่กรมอุตินิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนพายุไซโคลน “มหาเสน” ที่จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศ วันนี้ (16 พ.ค.) ส่งผลให้มีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย และมีฝนเพิ่มมากขึ้นหลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 16-17 พ.ค. โดยคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน ยังคงมีกำลังแรง สูง 2-3 เมตร ส่วนเรือเล็กให้งดออกจากฝั่งระยะนี้
นายพิชัย กุลจิ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62-2 ม.7 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ผู้ประกอบการเรือทัวร์ท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ในส่วนของการท่องเที่ยวทางทะเลของ จ.ตรัง ที่บริเวณท่าเทียบเรือปากเมงนั้น ผู้ประกอบการเรือทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งเรือหางยาว เรือขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ยังคงนำนักท่องเที่ยว และกรุ๊ปทัวร์ออกเดินทางท่องเที่ยวทะเลตามปกติ แม้ว่าในช่วงนี้จะมีลมกระโชกพัดแรงเป็นระยะ แต่ก็เป็นลมที่พัดจากฝั่งตะวันออก ไม่ใช่ลมที่พัดมาจากฝั่งตะวันตก จึงยังคงท่องเที่ยวได้ตามปกติ แม้นักท่องเที่ยวจะลดลงเหลือร้อยละ 20 ก็ตาม
ทั้งนี้ แม้จะมีการประกาศเตือนจากกรมอุตินิยมวิทยา และมีการประกาศปิดการท่องเที่ยวทางท้องทะเลตรัง ในช่วงตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.-15 ต.ค.56 โดยอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม แต่ทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวกลับเห็นว่า เนื่องจากในช่วง 3 เดือนนี้ เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าเที่ยวชมตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ คือ คนไทย ต้องเสียคนละ 40 บาท และคนต่างชาติ ต้องเสียคนละ 200 บาท จึงทำให้การท่องเที่ยวท้องทะเลตรัง ไม่ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว
สำหรับบริเวณถ้ำมรกต ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของ จ.ตรัง ทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวไม่สามารถนำนักท่องเที่ยวว่ายน้ำเข้าไปชมความสวยงามภายในถ้ำได้ เนื่องจากเป็นจุดที่ลมฝั่งตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน ซึ่งอาจส่งผลให้คลื่นลมในทะเล แล้วพัดพาร่างของนักท่องเที่ยวไปกระแทกกับผนังภายในถ้ำ จนอาจส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตได้ ดังนั้น ในช่วงระยะนี้จึงต้องหลีกเลี่ยง และงดการนำนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวภายในถ้ำมรกต จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเสียก่อน
ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านใน จ.ตรัง มีรายงานว่า ได้นำเรือหางยาวกว่า 30 ลำ เข้าจอดเทียบท่าริมฝั่ง และงดการออกเรือจับสัตว์น้ำในระยะนี้ เพราะเกรงจะเกิดความไม่ปลอดภัย