กระบี่ - เรือประมงพาณิชย์ และเรือประมงขนาดเล็กในจังหวัดกระบี่ กว่า 100 ลำ หยุดออกทำประมงติดต่อกันหลายวัน เหตุคลื่นลมแรง ส่งผลให้สัตว์น้ำขาดแคลน และปรับราคาสูงขึ้นเฉลี่ย กก.ละ 10-20 บาท ขณะที่แผงขายปลาบางรายหยุดชั่วคราวเพราะไม่มีสินค้าขาย
จากกรณีเกิดเหตุคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ขนาดเล็ก เรือประมงพื้นบ้าน ในจังหวัดกระบี่ รวมกว่า 100 ลำ หยุดออกหาปลาเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เกิดคลื่นลมแรงต่อเนื่อง ความสูงของคลื่นประมาณ 2-3 เมตร ไม่สามารถออกทำประมงได้ ส่งผลให้สัตว์น้ำในตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ ขาดแคลน และมีราคาสูงขึ้นโดยเฉลี่ยกิโลกรัมละ 10-20 บาท เช่น ปลาลัง จากเดิม ราคา กก.ละ 60บาท ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 70-100 บาท ปลาทู จากเดิม กก.ละ 50 บาท ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 70 บาท ปลาหางแดง กก.ละ 35 ขึ้นเป็น กก.ละ 45 บาท
ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าบางรายต้องปิดแผงขายหยุดขายชั่วคราว เนื่องจากไม่มีสินค้ามาจำหน่าย ส่วนพ่อค้าแม่ค้าที่ยังพอมีปลาจำหน่ายอยู่ก็เปิดแผงขายในราคาสูง เพราะราคาต้นทุนสูง เนื่องจากสินค้ามีไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะตามร้านอาหาร และโรงแรมขนาดใหญ่ยังมีความต้องการสูง
นางฮาวา ช่างเรือ ประธานชมรมอาหารทะเล ตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาสัตว์น้ำปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากช่วงนี้มีมรสุมติดต่อกันหลายวัน เรือประมงพาณิชย์ขนาดเล็ก ไม่สามารถออกทำการประมงได้ ส่วนเรือประมงพื้นบ้านซึ่งเป็นเรือขนาดเล็กก็ต้องงดออกหาปลาในระยะนี้ ส่วนที่ออกหาได้ก็ต้องหาในระยะใกล้ และได้ปลามาน้อยจึงไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงจำเป็นต้องปรับราคาขายสูงกว่าปกติ แต่อย่างไรก็ตาม หลังสภาพอากาศเข้าภาวะปกติเชื่อว่าราคาก็จะปรับลดลงมาอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นไปตามกลไกการตลาด
จากกรณีเกิดเหตุคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ขนาดเล็ก เรือประมงพื้นบ้าน ในจังหวัดกระบี่ รวมกว่า 100 ลำ หยุดออกหาปลาเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เกิดคลื่นลมแรงต่อเนื่อง ความสูงของคลื่นประมาณ 2-3 เมตร ไม่สามารถออกทำประมงได้ ส่งผลให้สัตว์น้ำในตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ ขาดแคลน และมีราคาสูงขึ้นโดยเฉลี่ยกิโลกรัมละ 10-20 บาท เช่น ปลาลัง จากเดิม ราคา กก.ละ 60บาท ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 70-100 บาท ปลาทู จากเดิม กก.ละ 50 บาท ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 70 บาท ปลาหางแดง กก.ละ 35 ขึ้นเป็น กก.ละ 45 บาท
ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าบางรายต้องปิดแผงขายหยุดขายชั่วคราว เนื่องจากไม่มีสินค้ามาจำหน่าย ส่วนพ่อค้าแม่ค้าที่ยังพอมีปลาจำหน่ายอยู่ก็เปิดแผงขายในราคาสูง เพราะราคาต้นทุนสูง เนื่องจากสินค้ามีไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะตามร้านอาหาร และโรงแรมขนาดใหญ่ยังมีความต้องการสูง
นางฮาวา ช่างเรือ ประธานชมรมอาหารทะเล ตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาสัตว์น้ำปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากช่วงนี้มีมรสุมติดต่อกันหลายวัน เรือประมงพาณิชย์ขนาดเล็ก ไม่สามารถออกทำการประมงได้ ส่วนเรือประมงพื้นบ้านซึ่งเป็นเรือขนาดเล็กก็ต้องงดออกหาปลาในระยะนี้ ส่วนที่ออกหาได้ก็ต้องหาในระยะใกล้ และได้ปลามาน้อยจึงไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงจำเป็นต้องปรับราคาขายสูงกว่าปกติ แต่อย่างไรก็ตาม หลังสภาพอากาศเข้าภาวะปกติเชื่อว่าราคาก็จะปรับลดลงมาอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นไปตามกลไกการตลาด
