นักวิชาการใต้ร้องรัฐบาลต้องมีมาตรการรองรับระบบไฟฟ้ามากกว่าคำขอโทษ

ยะลา - นักวิชาการใต้ล่าง เรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการรองรับระบบไฟฟ้าไม่ให้เกิดปัญหา มากกว่าที่จะกล่าวคำขอโทษ เหตุไฟดับประชาชน 3 จังหวัดชายแดนผวา เพราะทุกครั้งที่ไฟดับมักจะเกิดเหตุร้าย

วันนี้ (23 พ.ค.) ผู้ช่วยศาสตราจารย์อับดุลรอซะ วรรณอาลี อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา/นักวิชาการ กล่าวถึงกรณีไฟฟ้าดับทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ของชาติ ไม่เฉพาะของภาคใต้เท่านั้น เพราะภาคใต้เป็นแหล่งท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเที่ยวจำนวนมาก ส่วนภาคตะวันออกก็จะมีเกาะสมุย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของโลกอีกแห่งหนึ่ง การที่ไฟฟ้าดับในครั้งนี้ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดเหตุความไม่สงบ ตนคิดว่าประชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะหวาดผวามากที่สุด เพราะทุกครั้งที่ไฟดับมักจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ขึ้น ทางรัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ขอเรียกร้องให้มีมาตรการ หรือคำอธิบายอื่นๆ ที่มากกว่าคำว่าขอโทษจากรัฐบาล

“จะเห็นว่าการใช้พลังงานความมั่นคงของประเทศจะอยู่บนเส้นด้าย ถึงแม้จะมีอุบัติเหตุบ้าง แต่ก็ต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้ สิ่งที่น่าเสียใจมากคือ ภาคใต้เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานหลายอย่าง เช่น ก๊าซในอ่าวไทย เขื่อน พลังงานน้ำ ก็อยู่ในภาคใต้ ซึ่งสามารถดึงทรัพยากรมาผลิตพลังงานมาเป็นกระแสไฟฟ้าได้”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์อับดุลรอซะ ยังกล่าวว่า ในแต่ละปีประเทศไทยมีการใช้กระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ ในขณะเดียวกัน รัฐไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ทันต่อความต้องการของประชาชน ที่สำคัญประเทศไทยมักมีการต่อต้าน มีการประท้วง ฝ่ายรัฐจะต้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชน โดยเฉพาะมาตรการการป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้น การรณรงค์การใช้พลังงานจะช่วยให้ประชาชนเข้าใจ

ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เวลาไฟดับประชาชนจะตกใจเกิดความหวาดผวา มักเข้าใจว่ามีเหตุ ลูกหลานยังอยู่นอกบ้าน รัฐบาลควรมีมาตรการเร่งด่วนเป็นพิเศษ ตราบใดที่ไฟฟ้าไม่ดับที่กรุงเทพฯ มักไม่เป็นประเด็นเชิงนโยบายที่รัฐบาลจะต้องทำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งเด็ดขาดลงไป มิใช่การกล่าวคำขอโทษหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น