xs
xsm
sm
md
lg

อบต.อ่าวนาง ครวญทุ่นผูกเรือหายฝากผู้ประกอบการดูแลสูญงบปีละหลายแสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระบี่ - อบต.อ่าวนาง ครวญหลังพบทุ่นผูกเรือหลายจุดบริเวณแหล่งท่องเที่ยวหาย คาดอาจจะมีบางคนแอบตัดไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ทำให้เรือนำเที่ยว และเรือประมงไม่มีทุ่นผูกเรือ ต้องทิ้งสมอลงทะเล กระทบแนวปะการัง เผยทาง อบต.ต้องสูญเสียงบประมาณปีละหลายแสนบาทในการติดตั้งทุ่น ฝากผู้ประกอบการรีบแจ้ง

นายประเสริฐ วงศ์นา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ทางองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง ได้ลงพื้นที่สำรวจทุ่นผูกเรือตามแหล่งท่องเที่ยวบริเวณรอบๆ เกาะพีพี ต.อ่าวนาง ภายหลังได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการ และชาวประมงว่า ทุ่นผูกเรือที่ติดตั้งไว้หลายจุดตามแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลสูญหาย และเสียหาย โดยเฉพาะบริเวณเกาะพีพี อ่าวบิเละ อ่าวรันตี เกาะไม้ไผ่ และอ่าวลิง พบว่าทุ่นที่เคยติดตั้งไว้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะถูกลักลอบตัดไปใช้ประโยชน์ และเสียหายจากใบพัดเรือ ส่งผลให้เรือบริการนำเที่ยวไม่มีที่ผูกเรือต้องทิ้งสมอลงทะเลกระทบแนวปะการัง

รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง กล่าวอีกว่า แต่ละปีทางองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง ได้ใช้งบประมาณในการติดตั้งทุ่นผูกเรือเป็นจำนวนมาก ปีละ 150-200 ลูก งบประมาณกว่า 4 แสนบาท แต่หลังจากติดตั้งไปแล้วพบว่า ทุ่นผูกเรือได้รับความเสียหาย และสูญหายไปเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยปีละกว่า 100 ลูก ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าถูกลักลอบตัด และถูกใบพัดเรือพัดได้รับความเสียหาย ทำให้เรือนำเที่ยว และเรือประมงที่มาจอดบริเวณรอบๆเกาะต่างๆ ต้องทิ้งสมอลงทะเลกระทบต่อแนวปะการังได้รับความเสียหายไปจำนวนมาก จึงอยากวิงวอนไปยังผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบว่าจุดใดได้รับความเสียหาย ก็ให้แจ้งมาทาง อบต.อ่าวนาง เพื่อจะได้สำรวจซ่อมแซมจุดที่เสียหาย

“สำหรับแนวปะการังบริเวณเกาะพีพี กำลังฟื้นตัวจากการฟอกขาว หากว่ามีการทอดสมอเรือลงไปใต้ท้องทะเลก็จะทำให้ปะการังเสียหายอีก ทางที่ดีหากผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว หรือชาวประมงพบว่าทุ่นที่ทาง อบต.อ่าวนาง เคยนำไปผูกให้ไว้ได้รับความเสียหาย หรือสูญหายก็ให้รีบแจ้งเข้ามายัง อบต.เพื่อจะได้ไปติดตั้งให้ใหม่ และขอร้องว่าให้ช่วยกันรักษาด้วย เพราะหากว่าช่วยกันใช้แต่ไม่ช่วยกันรักษา ทุ่นก็จะได้รับความเสียหายเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ ซึ่งทาง อบต.อ่าวนาง ก็ต้องเบิกใช้งบประมาณในการติดตั้งทุกปีๆ ละหลายแสนบาท ซึ่งเป็นเงินภาษีของชาวบ้าน แทนที่จะได้นำไปพัฒนาด้านอื่นๆ” นายประเสริฐ กล่าวในที่สุด
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น