นราธิวาส - สสจ.นราธิวาส เตรียมจัดส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม.ลงพื้นที่ไปให้ความรู้ตามโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลเพื่อรณรงค์การป้องกันโรคฟันผุ หลังพบว่ามีอัตราเด็กเป็นโรคฟันผุสูง
นายแพทย์จรัญ จันทมัตตุการ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ห่วงปัญหาด้านทันตกรรมในกลุ่มเด็กของจังหวัดนราธิวาส หลังพบว่าเด็กในวัยต่ำกว่า 10 ปี ซึ่งเรียนอยู่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 1 มีปัญหาฟันผุมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยเด็กที่อยู่ในเขตเมืองจะพบน้อยกว่าเด็กที่อยู่ในพื้นที่ชนบท หรือพื้นที่ห่างไกล ซึ่งในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบางแห่งพบว่า เด็กเป็นโรคฟันผุสูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ สำหรับจังหวัดนราธิวาส มีปัจจัยที่ส่งผลให้เด็กเป็นโรคฟันผุ ประกอบด้วย การมีบุตรหลายคน และส่วนใหญ่จะเน้นการออกไปหารายได้เป็นหลัก ทำให้ไม่สามารถดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และทั่วถึง ประกอบกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่นิยมอาหารรสหวานจัด มัน และน้ำอัดลม รวมทั้งขนมกรุบกรอบ แต่กลับไม่มีการดูแลสุขภาพในช่องปากอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันโรคฟันผุ โดยผลเสียที่จะตามมาจากการเป็นโรคฟันผุ คือ ทักษะทางสมอง และการเรียนรู้จะมีพัฒนาการที่ช้ามาก ซึ่งจะกระทบต่อระดับเชาวน์ปัญญา หรือไอคิวของเด็กได้
ส่วนแนวทางในการแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าว ได้เตรียมจัดส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม) ลงพื้นที่ไปรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพปาก และฟันตามสถานศึกษา และชุมชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้นำไปปฏิบัติและขยายผลไปยังทุกครอบครัวในพื้นที่ต่อไป อีกทั้งยังได้มีการขอรับการจัดสรรทันตแพทย์เข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่
เนื่องจากที่ผ่านมา สถานบริการสาธารณสุขขาดแคลนทันตแพทย์ที่จะดูแลผู้ป่วยที่เกี่ยวกับโรคปากและฟัน ซึ่งล่าสุด ได้รับโควตามาแล้ว จำนวน 35 คน โดยขณะนี้ได้ส่งไปศึกษาต่อในด้านนี้เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าในปี 2557 จะสามารถเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ครบทั้งหมด จึงมั่นใจว่าจะทำให้อัตราส่วนระหว่างทันตแพทย์กับผู้ป่วยมีความสมดุลมากขึ้น และจะเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาการเกิดโรคในช่องปากในพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น
นายแพทย์จรัญ จันทมัตตุการ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ห่วงปัญหาด้านทันตกรรมในกลุ่มเด็กของจังหวัดนราธิวาส หลังพบว่าเด็กในวัยต่ำกว่า 10 ปี ซึ่งเรียนอยู่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 1 มีปัญหาฟันผุมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยเด็กที่อยู่ในเขตเมืองจะพบน้อยกว่าเด็กที่อยู่ในพื้นที่ชนบท หรือพื้นที่ห่างไกล ซึ่งในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบางแห่งพบว่า เด็กเป็นโรคฟันผุสูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ สำหรับจังหวัดนราธิวาส มีปัจจัยที่ส่งผลให้เด็กเป็นโรคฟันผุ ประกอบด้วย การมีบุตรหลายคน และส่วนใหญ่จะเน้นการออกไปหารายได้เป็นหลัก ทำให้ไม่สามารถดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และทั่วถึง ประกอบกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่นิยมอาหารรสหวานจัด มัน และน้ำอัดลม รวมทั้งขนมกรุบกรอบ แต่กลับไม่มีการดูแลสุขภาพในช่องปากอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันโรคฟันผุ โดยผลเสียที่จะตามมาจากการเป็นโรคฟันผุ คือ ทักษะทางสมอง และการเรียนรู้จะมีพัฒนาการที่ช้ามาก ซึ่งจะกระทบต่อระดับเชาวน์ปัญญา หรือไอคิวของเด็กได้
ส่วนแนวทางในการแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าว ได้เตรียมจัดส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม) ลงพื้นที่ไปรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพปาก และฟันตามสถานศึกษา และชุมชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้นำไปปฏิบัติและขยายผลไปยังทุกครอบครัวในพื้นที่ต่อไป อีกทั้งยังได้มีการขอรับการจัดสรรทันตแพทย์เข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่
เนื่องจากที่ผ่านมา สถานบริการสาธารณสุขขาดแคลนทันตแพทย์ที่จะดูแลผู้ป่วยที่เกี่ยวกับโรคปากและฟัน ซึ่งล่าสุด ได้รับโควตามาแล้ว จำนวน 35 คน โดยขณะนี้ได้ส่งไปศึกษาต่อในด้านนี้เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าในปี 2557 จะสามารถเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ครบทั้งหมด จึงมั่นใจว่าจะทำให้อัตราส่วนระหว่างทันตแพทย์กับผู้ป่วยมีความสมดุลมากขึ้น และจะเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาการเกิดโรคในช่องปากในพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น
