คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายา
โดย...จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย
ไม่ทันกลับถึงบ้านในการเดินทางไปอินโดนีเซียครั้งก่อน พี่ครื่น มณีโชติ ก็ชวนไปเที่ยวยอกยาการ์ตา-บาหลีอีกรอบ ข้าพเจ้าตัดสินใจตอบตกลงทันทีพร้อมชวนบุญเลิศ จันทระ เพื่อร่วมทาง เราต้องจ่ายค่าบริการแพงกว่าคนอื่นประมาณ 4,000 บาท แต่เราก็ยินดี การเดินทางครั้งนี้ภายใต้การดูแลของทัวร์สีรุ้ง โดยมีน้องเอ๊ะ และไกด์ท้องถิ่นยอกยาการ์ตา และบาหลีเป็นมัคคุเทศก์นำทางจากกัวลาลัมเปอร์จนถึงวันกลับหาดใหญ่
ย่ำค่ำวันที่ 5 พฤษภาคม 2556 ผู้ร่วมเดินทางประมาณ 18 คน นัดพบกันที่หน้าโรงพยาบาล ม.อ. เดินทางโดยรถโค้ชมาเลเซียถึงกัวลาลัมเปอร์เมื่อประมาณ 6 โมงเช้า เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาและถ่ายทุกข์ด้วยอัตราค่าบริการ 20 CEN ที่สถานีขนส่ง แล้วนำสัมภาระไปฝากที่ชั้นสองของสถานีขนส่งในอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่ายกระเป๋าใบละ 2 RM ขึ้นลิฟต์ไปหาอาหารเช้าที่ชั้น 4 แล้วตามคุณสิริ เน็งบัว ไปขึ้นรถไฟฟ้า ต่อรถสองทอดถึงตึกแฝด “ทวินทาวน์เวอร์” หรือปิโตรนาส เดินเที่ยวในศูนย์การค้า ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก่อนจะขึ้นรถเมล์กลับไปยังสถานีขนส่ง
ออกจากสถานีขนส่งด้วยรถแท็กซี่ 4 คน/คัน อัตราค่าโดยสารประมาณคันละ 12 RM ไปยัง KL CENTER เพื่อกินมื้อเที่ยง แล้วขึ้นรถบัสไปยังสนามบินแอร์เอเชียห่างออกไปจากที่นั่นประมาณ 70 กม. ปรากฏว่าเกิดการพลัดหลงกัน ตามหากันจ้าละหวั่นจนไม่ได้กินมื้อเที่ยงตามที่ตั้งใจ ในที่สุดต้องตัดสินใจขึ้นรถไปยังสนามบินเพื่อให้ทันตามที่ทัวร์นัดหมายคือ เวลาบ่ายโมงตามเวลาท้องถิ่นมาเลเซีย หรือเวลาเที่ยงวันตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย โดยทิ้งเพื่อนร่วมทางอีก 4 คนที่พลัดหลงกัน และสันนิษฐานว่าพวกเขาคงไปรอที่สนามบินแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อกันได้ เพราะไม่มีซิมโทรศัพท์มาเลเซีย
เรามาถึงสนามบินช้ากว่ากำหนดนัดหมายประมาณ 1 ชม. แต่ก็มีเวลาเหลือเฟือสำหรับการเช็กอินและโหลดกระเป๋าเดินทาง เพราะกำหนดเวลาเครื่องบินออกเดินทางประมาณบ่ายสาม ปรากฏว่าก่อนขึ้นเครื่องบินเพื่อนร่วมทาง 4 คนที่พลัดหลงกันมาขึ้นเครื่องบินทัน แต่พี่ครื่นซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเดินทางตัดสินใจงดการเดินทาง เนื่องจากเป็นห่วงเพื่อนร่วมทางทั้ง 4 คน เพราะยังไม่ทราบว่าคนที่แกเป็นห่วงมาขึ้นเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่คุณสิริ เน็งบัว เพื่อนชาวมาเลเซียที่มาร่วมตกระกำลำบากกับเราทราบแล้ว โดยไกด์เอ๊ะโทร.บอก
บ่ายวันนั้นเราออกจากกัวลาลัมเปอร์ภายใต้การนำ และให้บริการของน้องเอ๊ะเจ้าหน้าที่ของทัวร์สีรุ้งที่มารอรับอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ตั้งแต่ก่อนเที่ยง โดยไม่มีพี่ครื่นออกเดินทางมาพร้อมพวกเรา เราถึงยอกยาการ์ตาเมื่อเวลาเย็นย่ำ โดยมีไกด์ท้องถิ่นยอกยาการ์ตา และพนักงานบริการประจำรถนำเที่ยวมารอรับอยู่ที่สนามบิน ออกเดินทางจากสนามบินไปยังร้านอาหารที่ทางทัวร์ได้สั่งเตรียมอาหารไว้ เรากินอาหารมื้อค่ำรวมกับมื้อเที่ยงด้วยความเอร็ดอร่อยเพราะความหิว แล้วเดินทางไปยังโรงแรมที่พักโรงแรมยอกยาการ์ตาพาเลชโฮเต็ล เป็นโรงแรมมีระดับ ห้องพักสะอาดสะอ้านสะดวกสบายได้มาตรฐาน มีเครื่องอาบน้ำ แปรงสีฟัน กาแฟ ชาลิปตัน และกาต้มน้ำไว้บริการ
เราอาบน้ำครั้งแรกของ 2 วันแห่งการเดินทางด้วยความรู้สึกสดชื่น และเหนื่อยเพลียอยากทิ้งตัวลงนอนหลับให้สนิท หลังจากหลับๆ ตื่นๆ มาในรถโค้ชและเดินๆ นั่งๆ มาทั้งวัน สิ่งที่ข้าพเจ้าวิตกกังวลมากที่สุดในการเดินทางครั้งนี้คือ เกรงว่าจะตกเครื่องบินเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน หากเป็นเช่นนั้ชาตินี้จะไม่ขอเดินทางไปยอกยาการ์ตาอีกอย่างแน่นอน
ก่อนเข้าที่พักไกด์นัดหมายว่าพรุ่งนี้เขาจะปลุกตอนตี 4 ครึ่ง ออกจากโรงแรมตีห้าครึ่ง อาหารเช้าเป็นอาหารกล่องเพื่อไปที่มหาวิหารบุพุทโธก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เวลาที่ยอกยาการ์ตาเหมือนเวลาที่ประเทศไทย แต่ที่บาหลีเวลาเหมือนที่มาเลเซีย
เราถึงบุโรพุทโธ ศาสนสถานของพุทธมหายานมรดกโลกพบว่ามีหมอกลงหนามาก แต่พอขึ้นไปถึงบริเวณฐานของบุโรพุทโธ หมอกก็เริ่มจางลง แต่ไม่ทันได้เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นตามที่ตั้งใจ
ก่อนเข้าชมบุโรพุทโธ เราได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ด้วยกาแฟรสชาติกลมกล่อม และทุกคนต้องคาดผ้าปาเต๊ะแบบคนอินโดนีเซีย เพื่อแสดงถึงความเป็นคนพื้นเมืองที่นั่นในเชิงสัญลักษณ์ หลังจากเสร็จภารกิจตรงจุดต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างแดนแล้ว เราตามหลังไกด์ท้องถิ่นเข้าสู่บริเวณโบราณสถานอันเป็นมรดกโลกด้วยความตื่นตาตื่นใจ